โซล 13 ธ.ค.- รัฐบาลเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า กำลังพิจารณาเรื่องเก็บภาษีกำไรจากการค้าบิทคอยน์ ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียเตือนกระแสเก็งกำไรที่ทำให้บิทคอยน์มีราคาทะยานไม่หยุด
บิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดทำสถิติใหม่ทะลุหน่วยละ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 533,767 บาท) ในสัปดาห์นี้ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 20 เท่าในปีนี้ท่ามกลางกระแสวิตกเรื่องฟองสบู่แตก นักลงทุนรายย่อยในเอเชียจำนวนมากถึงกับเลิกทำงานประจำเพื่อหันมาค้าสกุลเงินเสมือนจริงเต็มตัว เฉพาะญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีคนประเมินว่ามียอดค้ารวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่ค้าทั่วโลก
รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงหลังการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ว่า จะพิจารณาเรื่องเก็บภาษีกำไรจากการค้าสกุลเงินเสมือนจริง จะห้ามเยาวชนเปิดบัญชีในตลาดค้าสกุลเงินเสมือนจริง และจะกำหนดให้ตลาดค้าต้องมีระเบียบคุ้มครองนักลงทุนและเปิดเผยราคาเสนอซื้อเสนอขายทั้งหมด มาตรการเหล่านี้ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาจึงจะมีผลบังคับใช้ ปัจจุบันเกาหลีใต้ห้ามสถาบันการเงินทุกแห่งทำธุรกรรมสกุลเงินเสมือนจริง
ส่วนญี่ปุ่นกำหนดให้ผู้ค้าสกุลเงินเสมือนจริงต้องขึ้นทะเบียนกับรัฐบาล โดยได้อนุมัติให้สกุลเงินเสมือนจริงใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายตั้งแต่เดือนเมษายน และได้ให้การรับรองสกุลเงินเสมือนจริงแล้ว 11 สกุลตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะที่จีนสั่งปิดตลาดค้าสกุลเงินเสมือนจริงในกรุงปักกิ่งตั้งแต่เดือนกันยายน
ด้านนายฟิลิป โลว ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียเตือนว่า ความหลงใหลในบิทคอยน์เป็นกระแสเก็งกำไรเท่านั้น เช่นดียวกับธนาคารกลางนิวซีแลนด์ที่เตือนว่า บิทคอยน์จะกลายเป็นตัวอย่างคลาสิกของการเกิดฟองสบู่ ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐเตือนว่า การค้าบิทคอยน์และการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปอาจละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง.- สำนักข่าวไทย