รัฐบาลดีเดย์เปิดตลาดประชารัฐทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 5 ธ.ค. – รัฐบาลเปิดตลาดประชารัฐทั่วประเทศ มท.1 ประเดิมเปิดตลาดประชารัฐที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมและทั่วประเทศ 6,520 แห่ง เพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ประชาชนกว่า 100,000 ราย


พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน “ตลาดประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้” ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล งานกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00-19.00 น. ซึ่งกระทรวงมหาดไทยยังจับมือหลายหน่วยงานร่วมทำพิธีเปิดตลาดประชารัฐทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมากกว่า 950 แห่งพร้อมกันด้วย โดยตลาดประชารัฐแบ่งเป็น 9 ประเภท ทั้งนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชน วิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) นำสินค้าที่ผลิตมาจำหน่ายทั่วประเทศรวมกันถึง 6,520 แห่ง   

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า การเปิดตลาดประชารัฐวันนี้  5 ธันวาคม 2560 เพื่อเป็นสัญญาณการเริ่มต้นให้ผู้ประกอบการรายใหม่ได้เข้าจำหน่ายในตลาดประชารัฐและประชาชนเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ซึ่งจากการรวบรวมของศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ พบว่ามีประชาชนสนใจร่วมนำสินค้าที่ผลิตขึ้นเองมาจำหน่ายในตลาดประชารัฐรวม  107,844 ราย และระยะต่อไปสินค้าที่มาจำหน่ายจะได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้ได้รับการต่อยอดพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นทั้งด้านคุณภาพ ความสะอาด ความปลอดภัยของสินค้า  


นายศรายุทธ ยิ้มยวน ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ในส่วนของ ธ.ก.ส.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยดูแลในส่วนตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. โดยนำลูกค้า 3 กลุ่มเข้ามาร่วมจำหน่ายสินค้าที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร small กลุ่มเกษตรกร SMART และกลุ่มเกษตรกร SMAEs นับเป็นการส่งเสริมสถานที่จำหน่ายสินค้าแก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและลูกค้าผู้ประกอบการ ปัจจุบัน ธ.ก.ส.เปิดตลาดประชารัฐอย่างน้อย 147 แห่งทั่วประเทศ โดยใช้พื้นที่บริเวณหน้าสำนักงานสาขา ธ.ก.ส. ซึ่งจะทยอยเพิ่มการเปิดตลาดมากขึ้น เพราะมีสาขาทั้งหมดถึง 1,275 สาขา 

นายศรายุทธ กล่าวว่า เมื่อลูกค้าเกษตรมีสถานที่จำหน่ายสินค้าก็ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแผงจำหน่ายสินค้า เป็นการช่วยลดต้นทุนและได้เรียนรู้ไปด้วยจากการขายให้พ่อค้าก็ลงมาขายเองได้ศึกษาว่าจะทำอย่างไรสินค้าจึงจะขายได้ และขายได้ดี ลูกค้าให้ข้อคิดมาก็สามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อขายให้ได้ราคา จึงนับเป็นการตอบสนองตามความต้องการของตลาดและต่อจากนี้ ธ.ก.ส.จะให้ความรู้และนำเรื่องการทำวิจัยเข้าไปช่วยลูกค้า เพื่อสามารถผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการของตลาด ควรจะควบคุมต้นทุนอย่างไร การนำสินค้ามาจำหน่ายตลาดประชารัฐยังเป็นโอกาสได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกด้วย ตลาดประชารัฐจะตอบโจทย์เรื่องการมีรายได้ที่มั่นคง ตอบโจทย์ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แก้ไขปัญหาความยากจน ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของรัฐบาลในเรื่องของความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนด้วย


สำหรับการจัดตลาดประชารัฐส่วนกลางที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นตลาดที่เกิดขึ้นตามดำริของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และถือเป็นตลาดต้นแบบที่ตลาดประชารัฐทั่วประเทศจะต้องนำแนวคิดและวิธีการดำเนินงานไปประยุกต์ใช้  โดยมีสินค้าคุณภาพดี อาหารชวนชิม มาจำหน่ายมากกว่า 170 ราย

การจัดงานเปิดตลาดประชารัฐภายใต้ชื่องาน “ตลาดประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้” มีสาเหตุที่ใช้ชื่องานนี้ เนื่องจากการดำเนินงานตลาดประชารัฐตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดให้มีการจัดสรรพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาจำหน่ายในตลาดประชารัฐ 9 ประเภท จะเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ประกอบการที่มีสินค้าดี มีคุณภาพแต่ไม่มีสถานที่จำหน่าย ได้มีอาชีพและรายได้ เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ในส่วนของการออกแบบพื้นที่จัดงานจะแบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่  โซนตลาดพื้นฐาน 5 ตลาด ได้แก่ ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ ของดีจังหวัด ท้องถิ่นสุขใจ ของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. และ กทม.คืนความสุข โซนตลาดเพิ่มคุณค่า  2 ตลาด ได้แก่ ตลาดวัฒนธรรม ถนนวัฒนธรรม และตลาดต้องชุม โซนตลาดก้าวหน้า  2 ตลาด ได้แก่ ตลาด Green Market และตลาด Modern Trade โซนสินค้าเด่นตลาดคลองผดุงกรุงเกษม 

โซนอาหารชวนชิม ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การจำหน่ายสินค้า สินค้าของ 9 ตลาดประชารัฐ อาหารชวนชิมของ 9 ตลาดประชารัฐ  Show case ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม การจัดแสดงนิทรรศการแนวคิดตลาดประชารัฐ ผลการดำเนินงาน และร้านค้าตัวอย่างตลาดคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อเป็นต้นแบบให้ตลาดประชารัฐในไปขยายผล การแสดงศิลปวัฒนธรรมที่หมุนเวียนมาแสดงจาก 9 ตลาดประชารัฐ การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด โดยมีสินค้าคุณภาพดีมีคุณภาพมาจำหน่าย อาทิ กระเป๋าใบบัว จังหวัดลำปาง ละมุด 100 ปี จังหวัดอยุธยา ผ้ามะยมมัดย้อม จังหวัดแพร่ หมอนยางพารา จังหวัดชุมพร ผ้าทอพื้นเมืองลาวครั่ง จังหวัดสุพรรณบุรี ของเล่นโบราณ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา สับปะรดตราดสีทอง จังหวัดตราด สบู่สาหร่ายเตา จังหวัดแพร่ ปลากะพงยักษ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น

สำหรับตลาดประชารัฐ 9 ประเภท ได้แก่ ตลาดประชารัฐ Green Market ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ ตลาดประชารัฐ กทม. คืนความสุข ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ตลาดประชารัฐ Modern Trade ตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. ตลาดประชารัฐต้องชม และตลาดประชารัฐตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง