อุบลราชธานี 5 ธ ค. – กฟผ.ปรับกำลังผลิตไฟฟ้าเรียกโหลดเร็วขึ้นกลางคืนรับชาวบ้านผลิตไฟฟ้าใช้เอง โดยเฉพาะโซลาร์รูฟท็อป
หลังจากที่แนวโน้มเทคโนโลยีใหม่จะมีผลต่อระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโซลาร์รูฟท็อป นายนิกูล ศิลาสุวรรณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ.) กล่าวว่า การใช้ไฟฟ้าภาพรวมไม่ลดลง แต่สัดส่วนของการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2579 จะมีกว่า 5,000 เมกะวัตต์โดยเฉพาะระบบแสงอาทิตย์บนหลังคาที่กระทรวงพลังงานคาดว่าจะมีร้อยละ 20 ของบ้านเรือนไทย ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ในระบบอาจต่ำกว่าแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาวฉบับปัจจุบัน เมื่อเทียบกับ BASE LOAD ถึง 3,800 เมกะวัตต์ แม้เป็นเรื่องดีที่ส่งเสริมพลังงานทดแทน แต่ปัญหาที่ตามมา คือ โซลาร์รูฟท็อปจะผลิตและใช้ได้ในช่วงกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนเมื่อมีความต้องใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง ก็ต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้าฟอสซิล เพื่อดูแลความมั่นคง โดยระบบต้องสำรองไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อ ทดแทนระบบนี้
นายนิกูล กล่าวว่า การปรับแผนงานรองรับ เบื้องต้นกำลังศึกษาจะปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้สามารถลดโหลดไฟฟ้าช่วงกลางวันและเรียกโหลดให้เร็วขึ้นในช่วงกลางคืน ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนโรงไฟฟ้า เช่น ห้องเผาไหม้ โดยจะลงทุนทำโครงการนำร่องปีหน้า เลือกจากโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ พระนครใต้หรือวังน้อย ซึ่งต้นทุนขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นเท่าใด อาจจะเป็นหลักร้อยล้านขึ้นไป ซึ่งจะให้เจ้าของเทคโนโลยีเสนอราคามา ซึ่งพบว่าราคามีความแตกต่างกันมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน
“ในยุโรปมีการปรับโรงไฟฟ้าฟอสซิลให้สามารถลดโหลดไฟฟ้าช่วงกลางวันและเรียกโหลดให้เร็วขึ้นในช่วงกลางคืน โดย กฟผ.กำลังศึกษาจะทำโครงการนำร่องหรือ pilot project เพื่อปรับปรุงโรงไฟฟ้าที่มีอยู่รองรับพลังงานทดแทนเริ่มต้นปีหน้าจะทำมากน้อยเพียงใด ต้องศึกษาให้รอบคอบและรอดูว่า พลังงานทดแทนจะเข้าระบบมากน้อยเพียงใด และลงทุนแล้วคุ้มค่าเพียงใด”นายนิกูล กล่าว. -สำนักข่าวไทย