โรงไฟฟ้า VSPP ขอเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้า

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – โรงไฟฟ้าเอกชน แนะรัฐบาลทบทวนปรับเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กมาก (VSPP) ชาวบ้าน วอนรัฐบาลช่วยแรงงาน ต่ออายุโรงไฟฟ้าชีวมวล


นางปาริฉัตร์ สรรพมงคลไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กมลาไสย ไบโอ เพาเวอร์ 2010 จำกัด ทำหนังสือถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หลังจากในปี 2556 คณะกรรมการ กกพ. มีนโยบายการส่งเสริมการประกอบกิจการโรงไฟฟ้ารายใหม่ ในรูปแบบโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก Small Power Plant SPP และขนาดเล็กมาก VSPP โดยภาครัฐทำสัญญาและอนุญาตให้ขายไฟฟ้า โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลประเภทเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าเดิม เมื่อความต้องการเชื้อเพลิงชีวมวลเพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น เช่น แกลบ Rice Husk 500 บาท/ตัน เป็น 2,000 บาท/ตัน, ไม้ฟืน 500 บาท/ตัน เพิ่มเป็น 800 บาท/ตัน ทะลายปาล์ม 150 บาท/ตัน เพิ่มเป็น 300-350 บาท/ตัน ในปัจจุบัน รวมถึง ต้นทุนการผลิตทั้งค่าใช้จ่าย ก่อสร้างโรงไฟฟ้า เครื่องจักรในระบบการผลิตไฟฟ้าค่าจ้างแรงงาน เงินกู้จากสถาบันการเงิน ทำให้ต้นสูงขึ้นเป็นเท่าตัวมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้จนต้องขอหยุดการประกอบกิจการไป ในเวลาต่อมา

จากนั้น 25 มิถุนายน 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบ ข้อเสนอการรับซื้อไฟฟ้ากรณีต่ออายุสัญญาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เปลี่ยนรูปแบบจาก Adder เป็น Feed-in Tariff (FIT) ใหม่ในราคาหน่วยละ 2.28 บาท เป็นราคารับชื้อไฟฟ้าในราคาต่ำมาก ไม่สะท้อนต้นทุนทุนการผลิตที่แท้จริง ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าไม่สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ภายใต้การรับซื้อในราคาเพียงเท่านี้ บริษัทเห็นว่า เมื่อประกาศคณะกรรม กกพ.เห็นชอบ โครงการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวล ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากแบบ Adder เป็น Feed in Tariff(FIT) ภาครัฐควรพิจารณาต่ออายุสัญญา เพราะโรงไฟฟ้ายังคงมีอายุการใช้งาน 20 ปี ตามที่ออกแบบและศึกษาความเป็นไปได้


โรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กมาก (VSPP) จึงขอคัดค้าน มติที่ประชุม กพช. (25 มิ.ย.67) กรณีรับซื้อไฟฟ้ากรณีต่ออายุสัญญาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เปลี่ยนรูปแบบจาก Adder เป็นFeed-in Taiff (FIT) ในราคาหน่วยละ 2.28 บาท ดังนี้ 1. ราคาค่าไฟฟ้า หน่วยละ 2.28 บาท เป็นอัตรารับซื้อไฟฟ้า ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เพราะต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเฉลี่ย ในการผลิตไฟฟ้า 1 หน่วย สูงกว่า 2.28 บาท 2.การกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้า ในอัตราคงที่ ไม่ได้มีความแปรผันตามค่าเชื้อเพลิงชีวมวลแต่ละประเภทในแต่ละฤดู จึงเป็นราคาที่ไม่เหมาะสม

3.โรงไฟฟ้าแต่ละโรงยังคงมีศักยภาพ ผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เนื่องจากอายุของโรงงานยังเหลือยู่ หากต้องประกอบกิจการต่อไปโดยมีเงื่อนไขให้จำหน่ายไฟฟ้าได้เพียงราคาหน่วยละ 2.28 บาท ผู้ประกอบการ ต้องขาดทุนจนปิดกิจการทันที 4.กรณีโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลรายเดิมต้องเลิกกิจการไป จะเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก หากส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ ต้องลงทุนเพิ่ม 700 ล้านบาท/โรง และต้องใช้ ก่อสร้าง ทดสอบระบบ

บริษัท กมลาไสย ไบโอ เพาเวอร์ 2010 จำกัด (บริษัท) เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กมาก VSPP กำลังผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ขายกระแสไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขนาด 8.00 เมกะวัตต์ ได้รับส่งเสริมให้ผู้ประกอบการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2550 ขายกระแสไฟฟ้าแบบ Adder การประกอบกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่เป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร พื้นที่ใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้า เช่น แกลบจากโรงสีข้าว, เศษไม้จากโรงเลื่อย, ทะลายปาล์มเปล่าจากโรงหีบน้ำมันปาล์ม, ชานอ้อยจากโรงหีบ เพื่อนำมาเผาไหม้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กมาก(VSPP) .-515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

New Delhi railway station overcrowding leaves 15 dead

เบียดกันเสียชีวิตที่สถานีรถไฟในอินเดีย

นิวเดลี 16 ก.พ.- เกิดเหตุฝูงชนเบียดเสียดกันจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ขณะพยายามยื้อแย่งกันขึ้นรถไฟโดยสารที่สถานีรถไฟในกรุงนิวเดลีของอินเดียเมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 21.30 น.วันเสาร์ตามเวลาไทย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 10 คน และเด็ก 3 คน และยังมีผู้บาดเจ็บ 15 คน  เหตุการณ์สลดเกิดขึ้นที่ชานชาลา 2 แห่งของสถานีรถไฟในกรุงนิวเดลี ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากยื้อแย่งกันขึ้นรถไฟ 2 ขบวนที่มาถึงล่าช้า เพื่อที่จะเดินทางไปร่วมเทศกาลมหากุมภเมลา ซึ่งเป็นพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่เมืองประยาคราช  รัฐอุตตรประเทศที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มกราคม ซึ่งถือเป็นวันศักดิ์สิทธิที่สุดของเทศกาล เกิดเหตุผู้แสวงบุญเบียดเสียดกันจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน.-820(814).-สำนักข่าวไทย  

นายกฯ​ ปลื้ม​เยือนจีนอย่างเป็นทางการ​ ย้ำไทยได้ประโยชน์

นายกฯ​ ปลื้ม​เล่าละเอียดอีกรอบเยือนจีนอย่างเป็นทางการ​ สรุปย้ำไทยได้ประโยชน์ความมั่นคง-การค้า-เสริมสร้างความสัมพั​นธ์ให้ยาวนาน​ พร้อมเปิดอีกมุมเล่าจากภาพถ่ายฝีมือตัวเองในมือถือ​ ที่พักเรือนรับรอง-เซลฟี่​ “หลี่​ เฉียง” ​บอดี้การ์ดหญิงที่ดังในโซเชียล

มธ.แปรอักษรล้อการเมือง เหน็บ MOU ขึ้นภาพคู่ “อิ๊งค์-พิธา”

“ธรรมศาสตร์” แปรอักษรล้อการเมือง หลังงานบอลจบ เหน็บ MOU ขึ้นภาพคู่ “แพทองธาร-พิธา” บอกเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร-ฝ่ายค้าน วิจารณ์นโยบายรัฐบาล “บ้านเพื่อคนไทย-คอนโดเพื่อคนจีน” แถมแซะน้ำท่วมต้องรอ “เมียคนใต้” พร้อมถาม “โทนี่” กลับมาได้ไง