กรมบัญชีกลางเร่งติดตั้งเครื่องอ่านบัตรรักษาข้าราชการ

กรุงเทพฯ  3 ธ.ค. – กรมบัญชีกลางเร่งติดตั้งเครื่องอ่านบัตรประชาชน 5,600 เครื่องทั่วประเทศ เพื่อรักษาพยาบาลข้าราชการ คาดเริ่มใช้ปี 61


นางญาณี แสงศรีจันทร์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงการคลังมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการใช้บัตรประชาชนเป็นบัตรหลักแสดงตนในการรักษาพยาบาลของราชการ จึงไม่จำเป็นต้องทำบัตรรักษาพยาบาลแบบใหม่ ดังนั้น ต้องเริ่มติดตั้งเครื่องอ่านบัตรตามโรงพยาบาลของรัฐและภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นภาระที่ไม่สูงมากนักหลักพันบาท  เพื่ออ่านข้อมูลในบัตรประชาชนเลข 13 หลักของข้าราชการ ผู้รับบำนาญ 2 ล้านราย เมื่อรวมบุคคลในครอบครัวประมาณ 6 ล้านราย เมื่อเข้ารักษาพยาบาลจะได้ส่งข้อมูลมายังกรมบัญชีกลางตัดยอดค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

นางญาณี กล่าวว่า กรมบัญชีกลางต้องติดตั้งเครื่องอ่านบัตรประชาชนทั่วประเทศ 5,600 เครื่อง ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ใช้งบประมาณติดตั้งประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อใช้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลเข้ารับการรักษา รายการรักษาและยา อัตราค่าบริการ วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์และบุคคลในครอบครัว ใช้บัตรประชาชนเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที รวมทั้งมีระบบการตรวจสอบช่วยป้องกันปัญหา เช่น การสวมสิทธิ์ การเวียนเทียนรับยา เป็นต้น หลังจากติดตั้งเครื่องรูดบัตรตามสถานพยาบาลที่เข้าร่วมการจ่ายตรง 1,300 แห่งทั่วประเทศ  คาดว่าจะดำเนินการใช้บัตรประชาชนได้ปี 2561 โดยในงบประมาณปี 2561 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณรองรับการรักษาประมาณ 70,000 ล้านบาท 


ส่วนกรณีรัฐบาลมีนโยบายนำเงินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มาใช้ลงทุนในพื้นที่ 150,000 ล้านบาท เริ่มลงทุนทั้งโครงการใหม่และโครงการเดิมในช่วง 4 เดือนข้างหน้า เพื่อช่วยให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบ คณะกรรมการบริหารเงินการคลังระดับจังหวัด (คบจ.) ประกอบด้วย คลังจังหวัด แบงก์รัฐ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพื่อให้คำแนะนำในโครงการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่นและต้องสภาท้องถิ่นพิจารณาอนุมัติแผนลงทุน เพื่อนำเงินเงินสะสมหลายแสนล้านบาทดังกล่าวมาลงทุนให้เกิดประโยชน์ มีทั้งเงินสำรองจ่าย 3 เดือน เงินรองรับสัญญาผูกพัน และเงินกู้สำหรับการสร้างโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งทยอยเบิกจ่ายผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง