เจนีวา 14 มี.ค.- หน่วยงานของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ร่วมกันเรียกร้องให้หยุดยิงโดยทันทีและยุติการโจมตีบุคลากรและสถานพยาบาลในยูเครน โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเป็น “ความโหดร้ายที่ไร้จิตสำนึก” ระบบเฝ้าระวังการโจมตีการดูแลสุขภาพหรือเอสเอสเอ (SSA) ขององค์การอนามัยโลกเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมที่ลงนามโดยผู้อำนวยการองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ กองทุนประชากรยูเอ็น และองค์การอนามัยโลกว่า นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์มีการโจมตีการดูแลสุขภาพแล้วทั้งหมด 31 ครั้ง การโจมตีกลุ่มผู้เปราะบางที่สุดที่ประกอบด้วยทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายอย่างไร้จิตสำนึก การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 12 คน บาดเจ็บ 34 คน แถลงการณ์เรียกร้องให้หยุดยิงโดยทันที เพราะบุคลากรทางการแพทย์จะต้องสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และโปลิโอ การให้ยาช่วยชีวิตแก่พลเรือนทั่วยูเครนและผู้ลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยุเครน มีการคลอดไม่ต่ำกว่า 4,300 ครั้ง คาดว่าสตรียูเครนประมาณ 80,000 คนจะคลอดในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ขณะนี้ออกซิเจนและยา รวมถึงการจัดการกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์กำลังเหลือน้อยถึงระดับที่เป็นอันตราย ระบบสาธารณสุขในยูเครนกำลังตึงตัวอย่างยิ่ง หากระบบล้มเหลวจะกลายเป็นหายนะ จึงต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและการเปิดทางให้ผู้เดือดร้อนได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทางออกสันติเพื่อยุติสงครามในยูเครนยังคงเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย