คนไทยใช้บัตรเดบิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 35

กรุงเทพฯ 30 พ.ย. – คลังเดินหน้าแจกโชคผู้ใช้บัตรเดบิต เผยยอดใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน


นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดของประชาชนเพิ่มขึ้น เนื่องจากกระทรวงการคลังและสถาบันการเงิน รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งเสริมผ่านโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ซึ่งดำเนินการภายใต้โครงการ National e-Payment  เป็นครั้งที่ 6 กระแสตอบรับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยประชาชนมีการใช้บัตรเดบิตไตรมาส 3 ปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 6.2 ล้านรายต่อเดือน มูลค่าเฉลี่ย 11,700 ล้านบาทต่อเดือน ขยายตัวคิดเป็นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีการวางเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่อง EDC ภายใต้โครงการนี้รวม 170,000 ร้านค้า กว่า 440,000 เครื่อง นอกจากนี้ โครงการได้ขยายสิทธิ์ครั้งแรกไปถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน ให้สามารถลุ้นโชคได้ โดยการใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เป็นต้นไป สำหรับซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบการเกษตร ทั้งนี้ ไม่รวมค่าใช้จ่ายในสวัสดิการเดินทางผ่านบัตรสวัสดิการ

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า บัตรเดบิตในประเทศไทยมีจำนวนสะสม 54 ล้านบัตร ที่ผ่านมาประชาชนใช้กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม อย่างไรก็ตาม ผลจากโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ซึ่งดำเนินการภายใต้โครงการ National e-Payment ช่วยให้ประชาชนหันมาใช้บัตรเดบิตชำระค่าสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งการซื้อของออนไลน์ก็มียอดการใช้บัตรเดบิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


สำหรับโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตดำเนินการมาแล้วเป็นครั้งที่ 6 โดยการแจกโชคเดือนพฤศจิกายน 2560 นายสมชัย เป็นประธานและมอบรางวัลร้านค้าผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิเศษ บ่อทอง ปิโตรเลียม ร้านค้าลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ขณะที่นางสาวสิริธิดา มอบรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท แก่ผู้โชคดีจากการใช้บัตรเดบิต คือ สุภาวดี สมงาม ผู้ถือบัตรบัตรเดบิตธนาคารธนชาต

การแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตครั้งที่ 6 มีรางวัลที่ 2 มูลค่ารางวัลละ 30,000 บาท จำนวน 10 รางวัล รวม 300,000 บาท และมอบรางวัลให้กับร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และรางวัลสำหรับผู้ใช้บัตรเดบิต รางวัลที่ 2-7 มูลค่าตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 2,000 บาท จำนวน 100 รางวัล รวม 4.6 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1,012 รางวัล เงินรางวัลทั้งสิ้น 6.9 ล้านบาท

นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการเป็นส่วนหนึ่งช่วยขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐให้ไปสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society อย่างเต็มรูปแบบ โดยธนาคารสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในเรื่องความปลอดภัยจากการใช้บัตรด้วยเทคโนโลยีชิปการ์ด  EMV ที่ช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูลและปลอมแปลงบัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและนำเสนอสิทธิประโยชน์ในการทำธุรกรรมผ่านบัตร .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง