fbpx

โรงงานยาสูบวอนรัฐทบทวนภาษีสรรพสามิตบุหรี่

โรงงานยาสูบ 26 พ.ย. – โรงงานยาสูบเสนอคลังทบทวนภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ หลังพบมีบุหรี่ต่างประเทศบางยี่ห้อใช้ช่องโหว่กฎหมาย ผสมเทคนิคการทุ่มตลาด  กระทบบุหรี่ไทยป่วน เพราะต้องขายราคาแพงขึ้นจากภาระภาษี อาจทำให้คนหันไปสูบบุหรี่ขาดคุณภาพยาเส้นเต็มตลาด 


นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการโรงงานยาสูบ ร่วมกันแถลงถึงผลกระทบจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ว่า ต้องการเสนอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนประกาศกระทรวงเกี่ยวกับโครงสร้างอัตราภาษีใน พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ใหม่ และศึกษาผลกระทบรอบด้าน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ เพราะหลังจากมีการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ส่งผลต่อความไม่เป็นธรรมกับการค้าบุหรี่ในไทย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบทั้งเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ ร้านค้ายาสูบ และโรงงานยาสูบเองได้รับผลกระทบ รวมทั้งการนำส่งเงินเข้าคลัง

เพราะโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ฉบับใหม่ เปลี่ยนจากเดิมเก็บภาษี  9 เท่าของราคาสำแดงนำเข้า (CIF)  หรือราคาหน้าโรงงาน เปลี่ยนมาเป็นการคำนวณฐานภาษีจากปริมาณ และมูลค่าราคาขายปลีกแนะนำแทน  แนวทางดังกล่าวจึงทำให้เกิดช่องว่างให้บุหรี่ต่างชาตินำเข้าบางยี่ห้อปรับลดราคาขายลง เพราะมีภาระภาษีลดลง เช่น บุหรี่ตรา L&M  ขนาด 7.1 จากเดิมมีภาระภาษีสรรพสามิต 45 บาท  เมื่อทำตามโครงสร้างภาษีใหม่กลับมีภาระภาษีเหลือเพียง 35.21 บาท หรือลดลงร้อยละ 21.76  ทำให้ราคาขายปลีกลดลงจาก 72 บาทต่อซอง เหลือ 60 บาทต่อซอง ยอมรับว่ากฎหมายดังกล่าวมีช่องโหว่เปิดทางให้เอกชนรายใหญ่ต่างชาติใช้เทคนิคการตลาดนำภาระภาษีแบรนด์พรีเมี่ยมจากยี่ห้อ  Marlboro ลดลงมาช่วยชดเชยให้ยี่ห้อ L&M จึงขายบุหรี่ทั้ง 2 ยี่ห้อราคาลดลง สวนทางกับโรงงานยาสูบปรับราคา เพราะภาษีเพิ่ม


ขณะที่บุหรี่ไทยของโรงงานยาสูบส่วนมากเป็นบุหรี่ที่ผลิตโดยโรงงานยาสูบกลับมีภาระภาษีมากขึ้นทุกยี่ห้อ  เช่น กรองทิพย์ จากเดิมมีภาระภาษี 53.82 บาทต่อซอง หลังใช้โครงสร้างภาษีใหม่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 59.51 บาทต่อซอง หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.57 ราคาขายปลีกแพงขึ้น จากซอง 86 บาท เป็นซองละ 95 บาท ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากบริโภคบุหรี่ในประเทศเป็นบุหรี่ต่างประเทศแทน ไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพหรือทำให้จำนวนผู้สูบลดลง แต่กลับทำให้ยอดขายบุหรี่ในประเทศลดลง คาดว่าปี 2561 จะมียอดขายบุหรี่เหลือเพียง 17,000 ล้านมวนต่อปี  และปี 2562 จะลดลงเหลือ 8,500 ล้านมวนต่อปี ลดลงจากปี 2560 ที่จำหน่ายได้ 28,000 ล้านมวน  หากปัญหาดังกล่าวปล่อยไว้นานสุดท้ายจะทำให้บุหรี่ต่างประเทศครอบงำ ครองตลาดในประเทศไทย ส่งผลให้โรงงานยาสูบ รวมถึงร้านค้า และเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบไม่สามารถอยู่ได้ เพราะปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดของโรงงานยาสูบลดลงเหลือร้อยละ 65.92 จากเดิมร้อยละ 80 ในปีที่แล้ว ขณะที่บุหรี่ต่างประเทศมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.53 

ทั้งนี้ เห็นได้จากเพียงช่วงเวลา 1 เดือนกฎหมายบังคับใช้ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดถูกต่างชาติแย่งไปจากร้อยละ 80 ลดเหลือร้อยละ 65.92 แนวโน้มจะลดลงอีก อีกทั้งยังผลักดันให้คนหันไปสูบยาเส้นไม่ปรุง เพราะภาษี 30-40 สตางค์ต่อกรัม แทบจะไม่เสียภาษี  จึงเสนอให้คลังหาแนวทางช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการทุ่มตลาด และทบทวนกฎกระทรวงอัตราภาษีและความไม่ชัดเจนในการตั้งราคา เนื่องจากสรรพสามิตพูดมาตลอดเวลาว่ากฎหมายใหม่จะไม่ทำให้โรงงานยาสูบได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกันรัฐจะเสียรายได้จากเงินนำส่งของโรงงานยาสูบที่ต้องนำส่งรัฐร้อยละ 88 ของกำไรแต่ละปี จากปี 2560 ที่นำส่งรัฐกว่า 8,000 ล้านบาท กลับไม่มีเงินนำส่งเข้าภาครัฐปี 2561 นอกจากนี้ รัฐยังจะสูญเสียรายได้จากเงินนำส่งรัฐในรูปแบบภาษีต่าง ๆ จากการบังคับใช้ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ รวมมูลค่ากว่า 12,725 ล้านบาท จึงเสนอให้รัฐบาลหาแนวทางช่วยเหลือโรงงานยาสูบ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้