กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.-สกนช.สรุปผลการดำเนินงานกองทุนน้ำมันฯ ปี 66 มุ่งสร้างเสถียรภาพราคาพลังงานฝ่าวิกฤตผันผวน รอลุ้น ครม. ลดภาษีดีเซลต่อ เพื่อดึงราคาดีเซล 30 บาท ปี 67 หรือไม่ หลังครบอายุ 31 ธ.ค.66 ที่ใช้กลไกลดภาษี 2.50 บาท/ลิตร
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ในปี 2566 สกนช. ได้ปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของ ภายใต้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) และนโยบายคณะรัฐมนตรี ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ดูแลบริหารจัดการราคาขายปลีกของกลุ่มน้ำมันดีเซล เบนซิน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ได้คล่องตัวมากขึ้นหลังจากมีเงินกู้เข้ามาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ดังนี้
- รักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับ 30 บาท/ลิตร : โดยปี 2566 กบน. มีมติปรับลดราคาขายปลีกดีเซลไปแล้วรวม 7 ครั้ง จากราคา 35 บาท/ลิตรมายืนระยะที่ 32 บาท/ลิตร ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และปัจจุบันราคาลดลงมาอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร จากผลของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ให้ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน -31 ธันวาคม 2566 โดยใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตลง 2.50 บาท/ลิตร และกลไกกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาราคาขายปลีก
- รักษาระดับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ไม่ให้เกิน 423 บาท/ถังขนาด 15 กิโลกรัม (กก.) : โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 ได้ทยอยปรับราคาจาก 408 บาท/ถัง 15 กก. เป็น 423 บาท/ถัง 15 กก. มีผลวันที่ 1 มีนาคม 2566 ล่าสุด มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ก็ยังคงให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG อยู่ที่ 423 บาท/ถังขนาด 15 กก. ตั้งแต่
1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567
- การลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในกลุ่มน้ำมันเบนซิน : โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 31 ตุลาคม 2566 เห็นชอบ ลดราคาแก๊สโซฮอล 91 ลง 2.50 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน โดยใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน 1 บาท/ลิตร พร้อมใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุน ดังนั้น กบน. ได้ดำเนินปรับลดราคาขายปลีกเบนซิน ให้มีผลตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร ส่วน E20 และ85 ลดลง 80 สตางค์/ลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันฯ ณ 10 ธ.ค.66 ติดลบ 78,760 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชี น้ำมันติดลบ 32,708 ล้านบาท บัญชี LPG ติดลบ 46,052 ล้านบาทจากระดับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวจากที่เคยประเมินไว้ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯสิ้นปี 2566 คาดว่าจะอยู่ในระดับติดลบ 80,000 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เคยประเมินว่าจะติดลบ 100,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแม้ว่ากองทุนน้ำมันฯมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น แต่ยังติดลบสูงมาก ซึ่ง สกนช. ได้รับอนุมัติจาก ครม.ชุดที่แล้วในการกู้ยืมเป็นจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะของประเทศไปแล้ว 110,000 ล้านบาท ปัจจุบัน สกนช. ทำการกู้เงินและใช้ไปแล้วรวม 65,000 ล้านบาท และยังเหลือวงเงินราว 40,000 ล้านบาท ซึ่งหากรัฐจะต่อมาตรการตรึงดีเซลออกไปอีกหากไม่ใช้กลไกภาษีสรรพสามิตมาช่วยก็จะดูแลได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่ที่นโยบายรัฐบาลเป็นสำคัญ.-511-สำนักข่าวไทย