กรุงเทพฯ 29 พ.ค.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยอีก 2 เดือน ประเมินราคาน้ำมัน พิจารณาลดภาษีดีเซล ระบุหากขยายเวลาต้องหารือช่วงเป็น “รัฐบาลรักษาการ”
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลงนามประกาศกฏกระทรวงการไม่ต่อมาตรการ ลดอัตราพิกัดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร หลังจากครบกำหนดสิ้นสุด 21 ก.ค. 66 เพื่อให้รอรัฐบาลใหม่ เข้ามาพิจารณา และประเมินผลการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต ขณะนี้ยังมีเวลาอีก 2 เดือน ก่อนครบกำหนดมาตรการ เมื่อถึงเวลาครบกำหนด หน่วยงานี่เกี่ยวต้องต้องมาหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้ ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง รวมทั้งต้องพิจารณา สถานะกองทุนน้ำมัน ปัจจุบันยังติดลบจำนวนมาก
ยอมรับว่าการต่ออายุมาตรการออกไปในช่วงนี้ ต้องดูว่าในช่วงเป็น รัฐบาลรักษาการสามารถดำเนินการได้หรือไม่ต้องไปดูเรื่องข้อกฎหมาย หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงบประมาณ ต้องส่งเรื่องให้กับ กกต. พิจารณา เพราะมีข้อผูกพันไปยังรัฐบาลชุดใหม่ เหมือนกับการชดเชยค่าไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ต้องส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณา
นายอาคมกล่าวว่า สถานะกองทุนน้ำมันขณะนี้ดีขึ้นต่อเนื่อง สามารถเก็บเงินเข้ากองทุนได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันลดลง ยังอยู่บนพื้นฐาน กระทรวงการคลังลดภาษี 5 บาทต่อลิตร ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง ยอมสูญเสียรายได้ จากมาตรการทางภาษี เพื่อช่วยดึงราคาดีเซลให้ลดลง เพื่อดูแลทั้งหมวดเชื่อเพลิงและการขนส่ง หากแนวโน้มราคาน้ำมันปรับลง และกองทุนสามารถจัดเก็บเงินฐานะดีขึ้น จึงต้องพิจารณาดูอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงผ่านมามาตรการ ลดภาษีดีเซล 7 ครั้ง กระทบรายได้รัฐ 158,000 ล้านบาท ดังนี้
- วันที่ 18 ก.พ.-20 พ.ค.2565 (3 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 3 บาท รัฐสูญรายได้ 18,000 ล้านบาท
- วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.2565 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
- วันที่ 21 ก.ค.-20 ก.ย.2565 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
- วันที่ 21 ก.ย.-20 พ.ย.2565 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
- วันที่ 21 พ.ย.2565-20 ม.ค.2566 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาทรัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
- วันที่ 21 ม.ค.-20 พ.ค.2566 (4 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 40,000 ล้านบาท
- วันที่ 21 พ.ค. – 20 ก.ค.2566 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 40,000 ล้านบาท
ในขณะที่ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าดูแลราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มปัจจุบัน มีสถานะ ดีขึ้นจากเดิมติดลบสูงสุดเกือบ1.4 แสนล้าน ขณะนี้ติดลบ 72,000 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย
