ภูมิภาค 15 ต.ค.-คุณยายแขน้อย อายุ 77 ปี ชาวสมุทรสาคร ร่ำไห้เล่าถึงเหตุการณ์มื่อครั้งเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ตอนอายุ 12 ขวบ เมื่อปี 2496
คุณยายแขน้อย ใช้จำเริญ วัย 77 ปี เคยเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งที่ทั้ง 2 พระองค์ เสด็จพระราชดำเนินมายังประตูระบายน้ำบางยาง เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2496
ยายแขน้อยเล่าทั้งน้ำตาว่า ในสมัยเด็กได้เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จทั้ง 2 พระองค์ รู้สึกตื่นเต้น และกลายมาเป็นความปลาบปลื้มยินดี จากนั้นได้พยายามตามหารูปที่ทั้ง 2 พระองค์เคยเสด็จมาประตูระบายน้ำบางยาง จนในที่สุดมีช่างภาพใจดีมอบภาพให้ ซึ่งเก็บรักษาไว้ตลอดมา
เช่นเดียวกับนางสาวชลลดา พุ่มอิ่ม หรือน้องน้ำขิง อายุ 16 ปี ให้สัมภาษณ์รู้สึกปลาบปลื้มใจที่ครั้งหนึ่งเมื่อวัยเด็ก อายุเพียง 6 ขวบ เคยเขียนจดหมายขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงหายจากพระอาการประชวร จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มีจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ตอบกลับมา 1 ฉบับว่า “ถึงเด็กหญิงชลลดา พุ่มอิ่ม ตามที่ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะแพทย์ เพื่อถวายการรักษา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2549 นั้น ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงขอบใจ ลงวันที่ 4 กันยายน 2549” สร้างความปลาบปลื้มแก่ตนเองและครอบครัวอย่างมาก และได้เก็บรักษาจดหมายฉบับดังกล่าวไว้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
ด้านนายวินัย ขวัญเริงใจ อาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา อายุ 33 ปี ได้เล่าเรื่องราวสุดประทับใจที่ไม่มีวันลืม ในการได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เมื่อปี 2550 ซึ่งตนและคณะชมรมลูกเสือชาวบ้านภาคตะวันออกมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ในระยะใกล้ชิด โดยพระองค์ทรงพระราชทานคำสอนให้แก่คณะที่มาเข้าเฝ้าฯ ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า “คนไทยต้องช่วยเหลือกัน และไม่ทอดทิ้งกัน”.-สำนักข่าวไทย