พาณิชย์เร่งทำโครงการสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2

นนทบุรี 10 พ.ย. – พาณิชย์เร่งทำโครงการสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 หวังช่วยสร้างอาชีพผู้มีรายได้น้อยไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย พร้อมเร่งหารือห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ทำโปรโมชั่นรับช้อปช่วยชาติ 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับธนาคารต่าง ๆ และหน่วยงานที่ช่วยค้ำประกันและปล่อยสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โอทอป รวมถึงสินค้าชุมชน เพื่อให้สามารถนำสินค้าชุมชนไปวางขายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐกว่า 18,000 ร้านค้าตามเป้าหมาย โดยให้ธนาคารเร่งปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถนำไปพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค 

นอกจากนี้ จะช่วยสร้างอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะจับคู่กับผู้ประกอบ การแฟรนไชส์ เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและสอนการทำธุรกิจให้กับผู้มีรายได้น้อยที่มีศักยภาพ รวมทั้งร่วมมือกับธนาคารรัฐให้สินเชื่อพิเศษ เพื่อเป็นทุนสำหรับการประกอบอาชีพ ซึ่งขณะนี้เตรียมหารือธนาคารรัฐเพื่อกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดการให้สินเชื่อ โดยตั้งเป้าจะช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีอาชีพและหลุดพ้นจากความยากจน 20,000 รายในปีหน้า 


อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้ากรมการค้าภายในจะหารือห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีกต่าง ๆ เพื่อสรุปกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรับมาตรการช้อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคมนี้ รวมถึงจะให้ห้างร้านต่าง ๆ ช่วยนำสินค้าโอทอปเข้ามาจำหน่ายด้วย โดยย้ำว่าดูแลไม่ให้ร้านค้าและห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกต่าง ๆ เอาเปรียบผู้บริโภค หากพบว่าห้างร้านมีการแอบปรับขึ้นราคาสินค้า ในช่วงที่มีมาตรการช้อปช่วยชาติจะใช้มาตรการทางกฎหมายลงโทษอย่างจริงจัง 

ส่วนความคืบหน้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุดมีร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีดีซี แล้ว 12,000 ร้านค้า  โดยในช่วง 1 เดือน มีผู้ใช้บัตรสวัสดิการกว่า 10 ล้านคน มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวมกว่า 2,700 ล้านบาท พร้อมคาดว่าจนถึงสิ้นปี 2560 จะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการกว่า 9,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าที่มีการร้องเรียนกระทำผิดเงื่อนไข เช่น การจัดชุดสินค้า หรือการยึดบัตรสวัสดิการ โดยได้ทำการยึดเครื่องรูดบัตรอีดีซีคืนและตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ 7 ร้านค้า และปรับเงิน 1 ร้านค้า เนื่องจากไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งเดินหน้าติดตั้งเครื่องอีดีซีให้ได้ 18,000 ร้านค้าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมเดินหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 โดยการนำสินค้าชุมชนไปวางจำหน่ายตามร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในช่วงแรกให้ได้ 18,000 ร้านค้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง