คนกรุงใช้สิทธิบัตรสวัสดิการ กทม. วันแรกคึกคัก

บางบอน 17 ต.ค.- วันนี้เป็นวันแรกที่ผู้มีรายได้น้อยใน 7 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร ที่สามารถใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ โดยบรรยากาศการจับจ่ายเป็นไปอย่างคึกคัก 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่สำรวจการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ที่เขตบางบอน พบว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ มาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงเช้าประชาชนได้เดินทางไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในจุดที่ตนเองได้ลงทะเบียนไว้ จากนั้นได้เดินทางเพื่อมาใช้สิทธิยังร้านค้า แต่พบว่ายังมีปัญหาบ้าง จากผู้ถือบัตรไม่เข้าใจ และไม่ทราบเงื่อนไข รวมถึงวงเงินในบัตร รวมทั้งไม่รู้ว่ามีร้านใดที่สามารถใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้บ้าง

ขณะที่การซื้อสินค้าเป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่จะใช้วงเงินในบัตรจับจ่ายสินค้าประเภท ข้าวสาร น้ำมัน เครื่องปรุงรส และสินค้าอุปโภคบริโภคของใช้จำเป็นต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บัตรเต็มวงเงินที่ได้รับ ในครั้งเดียว เพราะกังวลว่าจะใช้ไม่ได้เมื่อหมดเดือน แต่ภาพรวมการจำหน่ายสินค้าของร้านค้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานและเตรียมความพร้อมร่วมกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่างใกล้ชิด สำรองสินค้าและการจัดลำดับผู้ที่มารอใช้สิทธิเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการเข้ามาใช้บริการโดยเฉพาะในช่วงแรกของการได้รับบัตร โดยขณะนี้มีผู้ผลิตร่วมโครงการแล้ว 24 ราย รวมจำนวนสินค้ากว่า 318 รายการ 


ทั้งนี้ ร้านธงฟ้าประชารัฐในกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 902 ร้านค้า ครอบคลุม 50 เขต  ทั่วกรุงเทพฯ และติดเครื่องแล้วกว่า 300 ร้านค้า คาดว่าจะติดครบทุกร้านได้ภายในเร็วๆนี้ ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ มีจำนวน 552,278 ราย ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานกับกรมบัญชีกลาง และธนาคารกรุงไทย เร่งรัดติดตั้งเครื่อง อีดีซี ให้ครบ กว่า 6,000-7,000 ร้าน แม้ว่าขณะนี้จะมีการค้าสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมของร้านค้าที่จะเป็นจุดให้บริการประชาชนอย่างครอบคลุม ดังนั้น ข่าวที่ออกมาว่าจะเป็นการเอื้อรายค้ารายใหญ่เพียงอย่างเดียว จึงไม่เป็นความจริง ทางกระทรวงฯจะเน้นความพร้อมของร้านซึ่งมีทั้งร้านขนาดเล็ก กลางและรายใหญ่เพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้เต็มที

นอกจากยังจะขอความร่วมมือจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนที่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาซื้อสินค้าด้วยว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินในบัตรให้หมดทันที แต่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งเดือน และวงเงินของบัตรเดือนตุลาคมนี้รัฐบาลได้ทบให้ไปใช้เดือนพฤศจิกายนได้ด้วย รวมถึงกำชับร้านค้าให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้ผิดประเภท หากพบ

ผิดจริงจะดำเนินการยึดเครื่อง EDC ถอดรายชื่อออกจากการเข้าร่วมเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


นอกจากนี้ รัฐบาลโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอปฎิเสธข่าวว่ารัฐบาลเตรียมปรับแนวทางบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยการโยกเงินในบัตรแมลงมุมที่เดินทางโดยรถยนต์และรถไฟหรือรถไฟฟ้าให้โอนสมทบเงินเพิ่มเติมได้นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อาจมีการนำเสนอเป็นเพียงแนวคิดของคนบางคนไม่ใช่เป็นการที่ภาครัฐจะปรับหรือเพิ่มอย่างแน่นอน ซึ่งตามเงื่อนไขในการใช้บัตรสวสดิการแห่งรัฐยังคังเป็นแนวทางเดิมทุกประการ จึงอยากให้ประชาชนเกิดความสับสนกับข่าวที่กำลังเผยแพร่ตามสื่อโซเชียวกันอยู่ในตอนนี้ และในการประชุม ครม วันนี้นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกส่วนงานร่วมมือที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้รับสวัสดิการความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

ครบ 20 ปี เหตุจลาจลคดีตากใบ จำเลยยังล่องหน

วันนี้ครบรอบ 20 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และยังเป็นวันที่คดีหมดอายุความ ในขณะที่การติดตามจับกุมตัวจำเลยยังไร้วี่แวว พาไปย้อนรอยเหตุการณ์และมุมมองของนักวิชาการต่อคดีนี้

รวบ “นัตตี้ ไดอารี่” ยูทูบเบอร์หลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์

ตำรวจร่วมกับดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อ