“ชัยฤทธิ์”รับทราบข้อหาผิดวินัยยอมรับผลสอบหากถูกไล่ออก

กรุงเทพฯ 10 ต.ค.- พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ เข้ารับทราบข้อหาความผิดทางวินัย กรณีขับรถพายิ่งลักษณ์หลบหนี โดยกล่าวเพียงสั้นๆ พร้อมน้อมรับผลการสอบสวนไม่ว่าจะถูกไล่ออกก็ตาม


พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้ารับทราบข้อกล่าวหาความผิดทางวินัย หลังคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ชุดของ พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีมติว่าพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 78 / 79 ของพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 กรณีใช้รถผิดกฎหมาย พานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ตามคำรับสารภาพในครั้งแรกของพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ที่แม้จะมีการกลับคำให้การในภายหลังก็ตาม โดยคณะกรรมการฯ พิจารณาหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานในรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ควบคู่กันไป รวมถึงการใช้รถยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม

ซึ่งวันนี้พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ปฏิเสธที่จะให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ กล่าวเพียงสั้นๆ พร้อมน้อมรับผลการสอบสวน แม้ว่าผลการสอบสวนจะมีโทษสูงสุด คือ ไล่ออกก็ตาม 


ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเปิดโอกาสให้เจ้าตัวชี้แจงเต็มที่ โดยคณะกรรมการจะสรุปผลการสอบสวนทั้งหมด ให้พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในวันพรุ่งนี้เพื่อตั้งคณะกรรมการดำเนินการพิจารณาโทษทางวินัย 

ด้านพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันขณะนี้ต้องรอผลการสอบสวนที่ยังไม่เสนอมา ซึ่งอัตราโทษมีหลายอย่างตั้งแต่ ปลดออก และให้ออก ส่วนคดีอาญายังไม่พบการกระทำผิด รอการสอบสวนของพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เรื่องดีเอ็นเอ ในรถยนต์และป้ายทะเบียนปลอมที่สวมใส่รถโตโยต้าคัมรี่ เบื้องต้นไม่สามารถดำเนินคดีกับพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ได้ เนื่องจาก ผลการตรวจดีเอ็นเอในรถเมื่อเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากบ้านพักของนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่ตรงกัน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะมีการตรวจซ้ำอีก เพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจาก ภายในรถมีสารปนเปื้อนจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง