“อนุสรณ์” ​แซะอภิปรายจืด ยันทีมพิทักษ์ฯ ไม่ต้องปรับแผน​

รัฐสถา 24 มี.ค.- “อนุสรณ์” ขอน้ำปลาให้ฝ่ายค้าน​แซะอภิปรายจืด​ โรยเกลือไม่น่าจะพอ​ เย้ย​ขอเวลา​ 5 วัน 5 คืน จะจืดกว่านี้​ ยันทีมพิทักษ์ฯ ไม่ต้องปรับแผน​ มั่นใจนายกฯ-รมต.​ตอบได้ทุกคำถาม


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขอฝากไปยังสื่อทุกสำนักว่าหากจะโปรยข่าววันนี้ต้องบอกว่า “อนุสรณ์ร้องสภา ขอน้ำปลาให้ฝ่ายค้านด่วน” เพราะติดตามจาก การนำเสนอข่าว จากยุทธการโรยเกลือดูแล้วไม่น่าจะพอ เกลือมาวันนี้ไม่น่าจะทันจึงต้องร้องขอน้ำปลาด่วน ซึ่งไม่ได้ประเมินด้วยตนเองแต่ติดตามจาก ฟีดแบค การประเมินจากสื่อมวลชนหลายสำนักพร้อมเปรียบเทียบกับการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่อภิปรายเรื่องสปก 4-01 ช่วงเป็นฝ่สยค้านมีความหนักแน่นเป็นเรื่องเป็นราวดูมีใบเสร็จ แต่เมื่อวานนี้ต้องใช้คำว่าเสียเวลาสภา ก่อนหน้านี้หลายคนอาจสงสัยว่าจะเอาอะไรมาอภิปราย 5 วัน 5 คืนแต่วันนี้เห็นชัดเจนแล้วว่าถ้าให้ 5 วัน 5 คืน จะจืดยิ่งกว่านี้ ซึ่งฝ่ายค้านแต่ละคนขอเวลา 65 นาที 80 นาทีน้อยที่สุด 35 นาที​พร้อมยกตัวอย่าง ถ้าไปดูคลิป วิธีการในการเลี้ยงกบหรือการปลูกฝรั่ง กิมจูจะมีเวอร์ชั่น 30 นาที 15 นาที แต่ถ้าเป็นตสจะเลือกกด 1 นาทีพอ​ ซึ่งการอธิบายถ้าเก่งเอาข้อมูลมาเนื้อๆเน้นๆ ไม่ต้องไปขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ต้องมีวาทกรรมเยอะ

นายอนุสรณ์​กล่าวว่า​ทีมพิทักษ์ ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องปรับแผน เราจะเห็นได้ว่าทีมพิทักษ์ใช้เวลาน้อยกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการประท้วง และในช่วงที่นายภราดร​ ปริศนานันทกุล​ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ลุกขึ้น เพื่อให้ผู้ประท้วงนั่งลงนั้น มีการนำเสนอว่า เกิดความโกลาหลวุ่นวายแต่ข้อเท็จจริงนายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ไปยืนจ้องหน้าอยู่หน้าบัลลังก์ ซึ่งคำวินิจฉัยของประธานถือเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย จะลุกขึ้นเมื่อ มีการผิดข้อบังคับ และหาว่าผิดข้อไหน เช่นข้อ 9 ประธานวางตัวเป็นกลางหรือไม่ ประธานต้องควบคุมการทำหน้าที่ ห้ามอภิปรายในลักษณะเสียดสี ให้ร้าย ส่วนข้อ 71 วรรค 2 ไปพาดพิงคนอื่นให้เสียหายหรือไม่ ดังนั้นการอภิปราย 1 วันชี้วัดว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องปรับแผนอะไร ทุกคนทำตามที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือ เราคงไม่ไปประท้วง​ พร้อมยกตัวอย่างการอภิปรายของบางคนเนื้อหาหนักแน่น แต่ไม่ได้เสียดสีใส่ร้ายชัดเจนเราก็ปล่อยให้อภิปราย เพราะมั่นใจว่านายกรัฐมนตรี รวมถึงนายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีทุกคนสามารถตอบได้ทุกคำถาม และข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้เปิดโอกาสให้สส.​พรรครัฐบาลชี้แจงแทน เพียงแต่จะดูว่าผิดข้อบังคับข้อใดบ้าง จะลุกขึ้นประท้วงในกรณีที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น


นายอนุสรณ์ยังย้ำว่าการอภิปราย เมื่อวานนี้จืดต้องขอน้ำปลา ใส่พริกและที่กล่าวหาว่านายกฯเลี่ยงภาษีหรือหนีภาษี เป็นการใช้คำรุนแรง ว่าไป ทำธุรกิจที่ไม่เหมาะสมกับทุนเทาข้ามชาติ เป็นการใส่ร้ายโดยใส่จินตนาการ อภิปราย วนเวียนซ้ำซาก จนสมาชิกต้องทักท้วง แต่พอหนักขึ้น เช่นมีการใช้คำว่ากีกี้ เป็นความพยายามฉวยจังหวะฉวยโอกาส ใส่ร้าย หรือด้อยค่าผู้อื่น และความพยายามที่จะอธิบายว่าเป็นเสียงของลูกสมุนของปีศาจ จึงต้องถามว่า ใครคือลูกสมุน และยังบอกว่าการทำหน้าที่ของพรรค ร่วมรัฐบาลที่พิทักษ์ข้อบังคับการประชุม เป็นการประท้วงตามงวดงานหรือสัญญาจ้างถือเป็นการเสียดสีใส่ร้ายหรือไม่ ด้อยค่าหรือไม่ วิญญู​ชนพึงตัดสินได้

ส่วนกรณีนายภูมิธรรม​พาดพิงคำว่า​กีกี้​ นายอนุสรณ์ระบุว่า ต้องให้ความเป็นธรรมเพราะ มีโอกาสที่จะพบคำไม่เหมาะสมเพราะผู้อภิปรายมีคาแรคเตอร์และพฤติกรรม ทำให้สงสัยได้​ เช่นคำว่าไม่รู้อะไร ทำให้เห็น ว่า​ มีทัศนคติวิธีคิดแบบนี้​ จึงทำให้สงสัยได้และต้องให้ความเป็นธรรมกับนายภูมิธรรมและเมื่อพิมพ์ค้นหาคำว่ากีกี้จะมีผลลัพธ์ออกมาเจอถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมจริงๆ

นายอนุสรณ์​ กล่าวว่า​ การอภิปรายเมื่อวานนายกรัฐมนตรีไม่มีใครช่วย​ แต่ยอมรับบางเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินกับข้าราชการระบบราชการทำงานเป็นทีม​ มีกระบวนการมีส่วนร่วมนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ การมอบหมายสั่งงานสั่งการประเมินผลไม่ได้หมายความว่านายกรัฐมนตรีต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เรื่องทุกเรื่องที่รัฐมนตรีทำนายกรับทราบและทำตามนโยบายและวันนี้ขอยืนยันเช่นเดิมว่าการประท้วงต้องระมัดระวังรัดกุมตามแนวทางเดิมไม่ให้ผิดข้อบังคับ​ ส่วนนายกรัฐมนตรียังเหลือเวลา ในการชี้แจงแต่จะไม่ใช้เวลามาก


อย่างไรก็ตามนายอนุสรณ์ย้ำว่า เป็นความเห็นส่วนตัวและรับฟังจากหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรค แล้วะผู้มีประสบการณ์​ พร้อมยืนยันว่าเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลมาครบมาเต็มแน่นอนส่วนจะมีเพิ่มหรือไม่ต้องรอติดตาม.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ช่วยผู้ที่ติดค้างใต้ซากตึกถล่ม

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ล่าสุดมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบอาคาร สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบ หลังตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดิน​ไหว​เพียงตึกเดียว​ คาดรู้ผลใน 7 วัน ยันไล่บี้ตั้งแต่แบบอาคารและการก่อสร้าง ชี้ทั้งบริษัทไทย-จีน​ ต้องรับผิดชอบเต็มร้อย ​ขณะทูตจีนพาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้