พม.ส่งทีมสหวิชาชีพเยี่ยมครอบครัว-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

ขอนแก่น 30 มี.ค. – “วราวุธ” นำ พม. ประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ภาคอีสาน 20 จังหวัด จัดทำแผนงานดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ เผยส่งทีมสหวิชาชีพเยี่ยมครอบครัว-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว-ตึกถล่ม


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) หรือ Disaster Care Center for the Vulnerable (DCCV) เพื่อบูรณาการบริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ซึ่งเตรียมการมานานหลายเดือนแล้ว เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือ ดูแล และเยียวยากลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติเชิงรุก ซึ่งมีนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง พม., นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม., ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. พร้อมคณะที่ปรึกษา, นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าร่วม

นายวราวุธ กล่าวว่า คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ได้มาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อประชุมกับทางทีม พม. 20 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับเรื่องการดูแลกลุ่มเปราะบางเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น โดยกระทรวง พม. ได้จัดตั้งศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในช่วงปลายปีที่แล้ว และได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ที่ภาคใต้ ที่จังหวัดสงขลา โดยได้ทำงานทันที เพราะว่าหลังจากประชุมเสร็จแล้วภายใน 2 วันเท่านั้นก็เกิดสถานการณ์อุทกภัยใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และเมื่อช่วงต้นปี 2568 ได้ไปประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ที่ภาคเหนือจังหวัด ที่เชียงใหม่ และวันนี้กระทรวง พม. ได้มาประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กเล็ก หรือสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ทั้งวาตภัย อุทกภัย หรือแผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. โดยจากนี้ไปบทบาทการทำงานของกระทรวง พม. จะไม่ใช่วิ่งตามปัญหา แต่เราจะเข้าไปช่วยป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้น เพราะยิ่งเตรียมตัวดีเท่าไร ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นฟูและการเยียวยาจะทำน้อยลงไป ซึ่งเราเชื่อว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข และมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยแต่ละจังหวัดของทีม พม. ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีการเตรียมตัว การดำเนินการ และมีการทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงของกลุ่มเปราะบางอย่างไรบ้าง


ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคลากรของกระทรวง พม. มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติในการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้อย่างทันท่วงทีอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของกระทรวง พม. มากขึ้น และได้รับเสียงสะท้อนจากกระทรวงอื่นที่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในการทำงาน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ซึ่งมีองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็น กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) หรือแม้แต่ ธนาคารโลก (World Bank) ที่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เริ่มเข้ามาดูมิติสังคมในช่วงปีที่ผ่านมา

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเพียงกับโลกใบนี้ แต่การทำงานของเราจะต้องหมุนและตามให้ทันกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่เปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำหรับการดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอุบัติเหตุใหญ่คือตึกถล่ม ที่ย่านจตุจักรนั้น กระทรวง พม. นำทีมโดยปลัดกระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่เพื่อไปตั้งจุดบริการประชาชนของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ในพื้นที่เกิดเหตุตึกถล่ม เพื่อบริการพี่น้องประชาชนที่ติดตามญาติที่สูญหายหรือเสียชีวิต และจะมีการติดต่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป ซึ่งบางรายกระทรวง พม. สามารถติดตามไปจนถึงจังหวัดภูมิลำเนาได้เรียบร้อยแล้ว และส่งทีม พม.จังหวัด ซึ่งมีทีมสหวิชาชีพ อาทิ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เข้าไปช่วยเหลือเยียวยา เพราะว่าอุบัติเหตุที่เกิดครั้งนี้บางครอบครัวยังไม่สามารถทำใจได้ จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่กระทรวง พม. ต้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยา โดยไม่ใช่ช่วยเหลือแค่หน้างาน แต่ต้องช่วยเหลือไปจนถึงภูมิลำเนาของแต่ละบุคคล เพื่อที่จะได้เร่งเยียวยาครอบครัวโดยเร็วที่สุด

นายวราวุธ กล่าวว่า  ขณะนี้ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลผู้สูญหาย ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ พร้อมสืบค้นข้อมูลที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของญาติพี่น้อง เพื่อประสานการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านในการเยียวยาสภาพจิตใจและให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการสังคมต่างๆ ของกระทรวง พม.


สำหรับผู้สูญหายทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี พิษณุโลก อุตรดิตถ์ หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด อุทัยธานี และเพชรบูรณ์ ซึ่งตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่เป็นภูมิลำเนาของผู้สูญหาย เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อประเมินทางสังคม โดยเฉพาะการเยียวยาสภาพจิตใจ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่าทีม ศรส.จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เยี่ยมบ้านผู้สูญหาย 2 ราย เป็นชายอายุประมาณ 18 ปี ทั้งคู่เป็นนักศึกษาฝึกงาน โดยในเบื้องต้นได้พูดคุยให้กำลังใจครอบครัว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดต่อไป และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนในสถานการณ์วิกฤติขอให้แจ้งศูนย์เรื่องการจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน พม. โทร.1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยพร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]