พม.ส่งทีมสหวิชาชีพเยี่ยมครอบครัว-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

ขอนแก่น 30 มี.ค. – “วราวุธ” นำ พม. ประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ภาคอีสาน 20 จังหวัด จัดทำแผนงานดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ เผยส่งทีมสหวิชาชีพเยี่ยมครอบครัว-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว-ตึกถล่ม


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) หรือ Disaster Care Center for the Vulnerable (DCCV) เพื่อบูรณาการบริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ซึ่งเตรียมการมานานหลายเดือนแล้ว เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือ ดูแล และเยียวยากลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติเชิงรุก ซึ่งมีนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง พม., นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม., ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. พร้อมคณะที่ปรึกษา, นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าร่วม

นายวราวุธ กล่าวว่า คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ได้มาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อประชุมกับทางทีม พม. 20 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับเรื่องการดูแลกลุ่มเปราะบางเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น โดยกระทรวง พม. ได้จัดตั้งศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในช่วงปลายปีที่แล้ว และได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ที่ภาคใต้ ที่จังหวัดสงขลา โดยได้ทำงานทันที เพราะว่าหลังจากประชุมเสร็จแล้วภายใน 2 วันเท่านั้นก็เกิดสถานการณ์อุทกภัยใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และเมื่อช่วงต้นปี 2568 ได้ไปประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ที่ภาคเหนือจังหวัด ที่เชียงใหม่ และวันนี้กระทรวง พม. ได้มาประชุมเชิงปฏิบัติการ ศบปภ. ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กเล็ก หรือสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ทั้งวาตภัย อุทกภัย หรือแผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. โดยจากนี้ไปบทบาทการทำงานของกระทรวง พม. จะไม่ใช่วิ่งตามปัญหา แต่เราจะเข้าไปช่วยป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้น เพราะยิ่งเตรียมตัวดีเท่าไร ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นฟูและการเยียวยาจะทำน้อยลงไป ซึ่งเราเชื่อว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข และมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยแต่ละจังหวัดของทีม พม. ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีการเตรียมตัว การดำเนินการ และมีการทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงของกลุ่มเปราะบางอย่างไรบ้าง


ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคลากรของกระทรวง พม. มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติในการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้อย่างทันท่วงทีอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของกระทรวง พม. มากขึ้น และได้รับเสียงสะท้อนจากกระทรวงอื่นที่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในการทำงาน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ซึ่งมีองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็น กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) หรือแม้แต่ ธนาคารโลก (World Bank) ที่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เริ่มเข้ามาดูมิติสังคมในช่วงปีที่ผ่านมา

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเพียงกับโลกใบนี้ แต่การทำงานของเราจะต้องหมุนและตามให้ทันกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่เปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำหรับการดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอุบัติเหตุใหญ่คือตึกถล่ม ที่ย่านจตุจักรนั้น กระทรวง พม. นำทีมโดยปลัดกระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่เพื่อไปตั้งจุดบริการประชาชนของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ในพื้นที่เกิดเหตุตึกถล่ม เพื่อบริการพี่น้องประชาชนที่ติดตามญาติที่สูญหายหรือเสียชีวิต และจะมีการติดต่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป ซึ่งบางรายกระทรวง พม. สามารถติดตามไปจนถึงจังหวัดภูมิลำเนาได้เรียบร้อยแล้ว และส่งทีม พม.จังหวัด ซึ่งมีทีมสหวิชาชีพ อาทิ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เข้าไปช่วยเหลือเยียวยา เพราะว่าอุบัติเหตุที่เกิดครั้งนี้บางครอบครัวยังไม่สามารถทำใจได้ จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่กระทรวง พม. ต้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยา โดยไม่ใช่ช่วยเหลือแค่หน้างาน แต่ต้องช่วยเหลือไปจนถึงภูมิลำเนาของแต่ละบุคคล เพื่อที่จะได้เร่งเยียวยาครอบครัวโดยเร็วที่สุด

นายวราวุธ กล่าวว่า  ขณะนี้ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลผู้สูญหาย ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ พร้อมสืบค้นข้อมูลที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของญาติพี่น้อง เพื่อประสานการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านในการเยียวยาสภาพจิตใจและให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการสังคมต่างๆ ของกระทรวง พม.


สำหรับผู้สูญหายทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี พิษณุโลก อุตรดิตถ์ หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด อุทัยธานี และเพชรบูรณ์ ซึ่งตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่เป็นภูมิลำเนาของผู้สูญหาย เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อประเมินทางสังคม โดยเฉพาะการเยียวยาสภาพจิตใจ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่าทีม ศรส.จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เยี่ยมบ้านผู้สูญหาย 2 ราย เป็นชายอายุประมาณ 18 ปี ทั้งคู่เป็นนักศึกษาฝึกงาน โดยในเบื้องต้นได้พูดคุยให้กำลังใจครอบครัว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดต่อไป และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนในสถานการณ์วิกฤติขอให้แจ้งศูนย์เรื่องการจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน พม. โทร.1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยพร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็คความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]

ศาล รธน. นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้

ศาล รธน. 13 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้ เปิดให้เจ้าตัวเข้าไต่สวนพร้อมเลขาฯ สมช. 21 ส.ค. ไม่มาถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จฮุน เซน จริง แม้ น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า น.ส.แพทองธาร แสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการ รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 […]