“ภูมิธรรม” ชี้ฝ่ายค้านอภิปรายแต่เรื่องเก่า ยันรัฐบาลไม่มีนโยบายไอโอ

รัฐสภา 25 มี.ค. – “ภูมิธรรม” บอกนั่งฟังอภิปราย 2 วัน ฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลใหม่ แจงเดินหน้าปฏิรูปกองทัพ-ปรับลดกำลังพล ส่วนยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำเป็นขั้นตอน ชี้หากมีภัยสงคราม กองทัพต้องปกป้องประเทศชาติได้ ยันไม่มีปฏิบัติการไอโอ พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง ภายหลังฝ่ายค้านอภิปรายถึงเรื่องกองทัพ การปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) การเกณฑ์ทหาร และเรือดำน้ำ ว่า สองวันในการอภิปราย คิดว่าท่านคงมีอะไรใหม่ๆ มาเสนอแนะให้รับทราบ เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์กับประชาชน แต่ตนนั่งฟังอยู่สองวันก็เห็นการอภิปรายเอาข่าวหนังสือพิมพ์ เอาคำสัมภาษณ์มาโยง มาผูกกันเป็นเรื่องเป็นราวมากมาย อยากให้การอภิปรายเป็นเรื่องที่หยิบเอาประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าจะไม่ไว้วางใจ ต้องมีประเด็นใหม่ๆ ที่คิดว่าเป็นเรื่องของการทำลายประเทศ หรือไม่มีความเหมาะสมที่จะบริหารประเทศ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การปฏิรูปกองทัพ การเกณท์ทหาร เรื่องเรือดำน้ำ เรื่องไอโอ เป็นเรื่องใหญ่ที่ควรจะพูด นอกนั้นเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเรื่องการปฏิรูปกองทัพ เรารู้อยู่แล้วว่าบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป กองทัพต้องเป็นกองทัพที่เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ซึ่งได้คุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด และได้ตกลงกันว่า กองทัพต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป กระทรวงกลาโหมกับเหล่าทัพได้คุยกัน และได้ออกสมุดปกขาวขึ้นมาฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดทิศทางของกองทัพ จากปี 2569 ถึงปี 2580 ซึ่งต้องยอมรับว่า หลายเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก็เป็นความจริง ที่ผ่านมากองทัพส่วนใดพัฒนาก็พัฒนาไป และอาจจะไม่ได้เห็นการรวมของแต่ละเหล่าทัพเป็นทิศทางเดียวกัน และพบว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ทำมายาวนานแล้ว และบางทีต่างฝ่ายต่างก็กำหนดกำลังพล กำหนดอาวุธยุทโธปกรณ์ กำหนดทิศทางการเดิน ก็ทำให้เกิดปัญหาได้ และต้องยอมรับว่า ทหารสมัยนี้เป็นทหารยุคใหม่ที่คิดอะไรไปไกล เพราะทุกคนไปเรียนรู้จากภายนอกมามากพอสมควร จึงรู้ว่าโลกต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร โดยเราได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการเดินไปทิศทางเดียวกันต้องเป็นอย่างไร ตั้งแต่อาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ละเหล่าทัพต้องจัดลำดับความสำคัญของอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ ซึ่งได้พูดคุยการปรับยุทธศาสตร์ ปรับทิศทางกองทัพ ปรับกำลังพล ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แต่ต้องอย่าลืมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำมายาวนาน แล้วอยู่ๆ จะมายกเลิกทีเดียวก็คิดง่ายๆ อย่างนั้นไม่ได้ และต้องคิดว่ากองทัพมีไว้ทำอะไรบ้าง อย่างน้อยที่สุด หากมีภัยสงคราม กองทัพต้องปกป้องประเทศชาติได้ ซึ่งตนได้คุย และขอให้คิดถึงจุดต่ำสุดที่เรามีกำลังพอที่จะรักษาประเทศ ถ้ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่อยู่บนความเป็นจริง ไม่ได้อยู่บนความฝันหรือจินตนาการ เพราะต้องรู้ว่าการเติบโตของกองทัพตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน ก็ต้องมาคิดว่าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรได้บ้าง โดยที่ทุกอย่างไม่ได้จบในวันเดียว การยกเลิกการเกณฑ์ทหารไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะถ้ายกเลิกไปแล้วเกิดอะไรขึ้นจะจัดการอย่างไร กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว เหมือนกันการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในกองทัพก็ต้องใช้เวลา


“ไม่มีหรอกครับอย่างที่ท่านพูด เข้ามาแล้วจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร 100% เข้ามาแล้วจะพัฒนากองทัพให้มีนายพลลดลงไป ทำอย่างนั้นไม่ได้ ท่านรู้หรือไม่ ว่าทำไมกองทัพจึงมีกำลังพลมาก และที่เพิ่มเติมตำแหน่งต่างๆ มากมาย เพราะตั้งแต่มีสงครามความขัดแย้งภายในประเทศ กองทัพต้องเร่งผลิตกำลังคน นักเรียนนายร้อยแค่ปีสามก็ต้องออกไปรบแล้ว และสูญเสียมากมายก็ต้องเร่งผลิต ซึ่งปัญหานั้น กองทัพมองถึงความมั่นคงของประเทศ การที่มีภัย การคุกคามหรือความแตกต่างที่ต่อสู้กันก็ต้องผลิตคนไปสู้ ทำให้มีคนมากขึ้น เมื่อวันนี้โลกเปลี่ยนแปลง และมองว่าต้องหยุดแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้วการผลิตก็ล้นมา และท่านหวังว่าจะให้อยู่ๆ ไล่คนเหล่านั้นออก ทำไม่ได้ และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ ตนทำเออร์ลี่รีไทร์บ้างก็ออกไป” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนลดกำลังพลด้วยการเออร์ลี่รีไทร์ ตั้งแต่เข้ามาได้ลดไป 589 อัตรา ซึ่งเป็นอัตราทดแทน ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ตกค้างมาจากคนอื่นๆ และรัฐบาลเข้ามาแบกรับปัญหา เราไม่เคยปฏิเสธในการแก้ปัญหา ตนได้ทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี ว่าเรือดำน้ำที่มีปัญหาเครื่องยนต์ทำไม่ได้นั้น ตนขอซื้อได้หรือไม่ และหาคนมาติดตั้งแทน ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบจากเยอรมนี และได้ทำหนังสือถึงปากีสถาน ซึ่งเขาบอกว่า เรือที่ติดเครื่องยนต์เรือดำน้ำนี้ยังไม่เคยลงน้ำมาก่อน ปากีสถานเอาเรือลงดำน้ำพอดี ขอให้ช่วยประเมินว่า เรือดำน้ำใช้เครื่องยนต์จีน แบบเดียวกับที่เราต้องซื้อ ก็ยังทำได้ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งต้องรอคำตอบ เพราะไม่ง่ายและต้องตัดสินใจ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจ และตนจะต้องตัดสินใจ โดยมีเหตุมีผลรองรับ

ส่วนเรื่องไอโอ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้หรือพวกเราทั้งหมดที่ทำงานบริหารประเทศ ไม่มีนโยบายตามที่ท่านได้กล่าวมา และตนเพิ่งได้รับทราบจากท่าน ซึ่งตนอาจจะไม่กว้างขวาง จากนี้จะไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนในข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะหาหนทางในการแก้ไข ถ้ามันเป็นจริง แต่ก็พูดยาก เพราะนั่งฟังท่านมาก็สับสนในข้อมูลเยอะเหมือนกัน หลายเรื่องเป็นเรื่องเก่า หลายเรื่องเป็นเรื่องไม่จริง ซึ่งตนรับฟังและจะไปตรวจสอบ จะให้เชื่อเลยก็คงเป็นไปได้ยาก และจะให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบและมารายงานตน


“อยากให้ทุกคนมีใจที่กว้างขวาง เพราะที่ฟังมาล้วนแต่เอาเรื่องในอดีต และเรื่องของคนอื่น หลายเรื่องนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ยังไม่ได้เป็นนายกฯ พอถ้าอภิปรายไปถึงต้นเหตุทั้งหมดก็เป็นปัญหา ซึ่งงานไหนที่เป็นปัญหาจะรับมาพิจารณาหาทางแก้ไข และอันไหนที่ไม่ใช่เรื่องที่สาระสำคัญหรือเป็นวาทกรรม และเป็นการแสดงตนก็จะปล่อยผ่านไป” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนจะบอกว่ากองทัพเป็นที่ที่เข้าไม่ได้นั้น ไม่จริง เพราะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนางสาวเบญจา แสงจันทร์ รวมถึงหลายๆ คนเข้ามาแล้ว กระทรวงกลาโหมเปิดต้อนรับตลอด เพื่อพูดคุยกัน.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]

ปศุสัตว์สระแก้วร่วมสอบสวนโรค “แอนแทรกซ์” หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกของจังหวัด

สระแก้ว 2 มิ.ย.​ – สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ หลังได้รับแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด​ เบื้องต้นยังไม่พบสัตว์ป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ แต่วางมาตรการควบคุมเข้มงวดป้องกันและควบคุม​โรคในสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วว่า วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังพบชายอายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการตุ่มแผลตามร่างกาย และได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าติดเชื้อ Bacillus anthracis สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ป่วยมีพฤติกรรมชอบบริโภคเนื้อดิบเป็นประจำ เช่น ลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ซึ่งเป็นเนื้อที่ซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อแบ่งกันรับประทานร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำ โดยไม่มีประวัติเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แม้ในพื้นที่จะยังไม่พบรายงานสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้วางมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องอันตรายของการบริโภคเนื้อดิบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานด่านกักกันสัตว์จังหวัดสระแก้วเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อและรถพ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย