นักเรียน ม.4 ผวาโดนเพื่อนจับขังแล้วเผาขอย้ายโรงเรียน

ชัยนาท 5 ต.ค.-น้องเอิร์ธนักเรียน ม.4 ผวาโดนเพื่อนจับขังแล้วเผา แม่ขอย้ายโรงเรียนให้ลูกไปอยู่ใกล้บ้าน


จากกรณี นางสาวกชพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี อาชีพหมอนวดแพทย์แผนไทย ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา กรณีน้องเอิร์ธ อายุ 14 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ถูกเพื่อนและรุ่นพี่ แกล้งปิดประตูใส่กุญแจขังไว้ในช่องเก็บของอาคารเรือนนอน แล้วฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไป จากนั้นได้จุดไฟแช็ก จนทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วม ก่อนจะเผาไหม้ร่างกายของน้องเอิร์ธ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเย็น วันที่ 20 ก.ย.60


ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนประจำดังกล่าว พบกับ นายสมเกียรติ สุทธิเจริญพานิชย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่าจากการสอบถามเด็กที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงหลังเลิกเรียน เด็กจะกลับไปที่เรือนนอน เพื่อทำภารกิจส่วนตัว ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน โดยเด็กที่บาดเจ็บได้แอบเข้าไปอยู่ในตู้เก็บของ แล้วถูกเพื่อนแกล้งปิดตู้ แต่ไม่ได้ล็อกตู้ ซึ่งเพื่อนก็เรียกให้ออกมาจากตู้ แต่เด็กไม่ยอมออก ยังบอกให้เพื่อนไปซักเสื้อผ้าและให้ไปเอาข้าวมาให้ด้วย เพื่อนๆ พยายามเรียกให้ออกจากตู้ เมื่อไม่ยอมออก จึงเอายาฉีดยุงมาฉีดใส่แกล้งกัน เด็กจึงยอมออกจากตู้ แต่ในจังหวะที่เด็กกำลังจะออกจากตู้ เพื่อนที่อยู่ด้านนอกได้จุดไฟแช็คขึ้นมา ทำให้ประกายไฟวิ่งเข้าไปในตู้ เป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้นได้เรียกผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมาเคลียร์กัน โดยผู้ปกครองของเด็กที่บาดเจ็บ ขอเงินชดเชยจากผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุทั้ง 3 คน เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ทุกๆ 15 วัน จนกว่าเด็กจะออกจากโรงพยาบาล  แต่เนื่องจากผู้ปกครองของเด็กโรงเรียนนี้ ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จึงยังไม่มีเงินจ่ายให้ แต่ได้มีผู้ปกครองรายแรก มอบเงินให้งวดแรกจำนวน 3,400 บาท ไปก่อน จากนั้นผู้ปกครองรายที่ 2 ก็ได้นำเงินมามอบให้กับโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงนำไปมอบให้ที่บ้าน แต่ผู้ปกครองของเด็กบาดเจ็บไม่ยอมรับเงิน และไม่ยอมติดต่อคุยกับทางโรงเรียน  ซึ่งทางโรงเรียนได้เตรียมพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่อาจมีการสื่อสารบางอย่างที่ทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน

ด้านรุ่นพี่หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เล่าว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ตั้งใจที่จะแกล้งน้อง ไม่คิดว่าการเล่นไฟแช็ค จะทำให้เกิดประกายไฟ ขอโทษน้องเอิร์ธที่ทำให้เจ็บ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ได้ไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาลและได้พูดคุยขอโทษกันแล้ว 


ในช่วงบ่ายวันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมด้วย นายธีร์ ภวังคนันนท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สนง.คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของน้องเอิร์ธที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร โดยนางปวีณา มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 3,000 บาท ส่วน พมจ.ชัยนาท มอบเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท ให้กับมารดาน้องเอิร์ธ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น

แพทย์หญิง ณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เปิดเผยว่าได้รับตัวเด็กชาย เข้ามารักษาจากการถูกไฟลวกตามร่างกาย มีแผลไฟลวกที่ ขาขวา แขนขวาและเท้าซ้าย แผลถูกไฟลวกประมาณ 10% ของร่างกาย  ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาตามมาตรฐานการ ส่วนสภาพจิตใจของเด็ก มีสภาพจิตใจดี แม้จะไม่ค่อยพูดคุย แต่ไม่มีอาการเครียดแต่อย่างใด

น้องเอิร์ธเล่าว่า หลังเลิกเรียนได้เข้าไปจัดเสื้อผ้าในตู้เก็บของ จากนั้นก็ถูกเพื่อนปิดตู้ และเอายาฉีดยุงฉีดใส่เข้ามาในตู้ ตนเองได้ขอร้องให้เปิดตู้ บอกไม่ไหวแล้ว จากนั้นก็มีไฟลุกเข้าในตู้ ประมาณ 20 วินาที เพื่อนจึงเปิดตู้ออกแล้วพาตนเองไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งเพื่อนก็ได้มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล และได้มีการกล่าวขอโทษกัน แต่ตนเองยังรู้สึกโกรธเพื่อนนิดๆ ที่เล่นกันแรงแบบนี้ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ

หลังเข้าเยี่ยมอาการน้องเอิร์ธ นางปวีณา ได้เข้าร่วมพูดคุยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งให้ความช่วยเหลือน้องเอิร์ธ เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ เพื่อรักษาร่ายกายให้หายสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ พร้อมทั้งเร่งเยียวยาจิตใจ โดยทางโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้ย้ายน้องเอิร์ธมาพักรักษาอาการในห้องพิเศษ ขณะที่ พมจ.ชัยนาท เตรียมนำนักสหวิชาชีพเข้าพูดคุยเพื่อฟื้นฟูจิตใจ ส่วนทางด้านการเรียน แม่น้องเอิร์ธมีความประสงค์ต้องการขอย้ายลูกไปเรียนที่ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เพราะอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งทาง สพฐ. ก็ยินดีดำเนินการให้ ทางด้านคดีความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินการแล้ว โดยมีการสอบปากคำเด็กที่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว รอให้น้องเอิร์ธหายดี จึงค่อยทำดำเนินการสอบปากคำพร้อมกับนักสหวิชาชีพ 

ด้าน มารดา และ ป้า ของน้องเอิร์ธ  กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ที่ตนออกมาเรียกร้องก็เพื่อให้ลูกได้รับความเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว