นครสวรรค์ 31 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลุย “นครสวรรค์-ชัยนาท” ขึ้น ฮ. บินตรวจบึงบอระเพ็ด-เขื่อนเจ้าพระยา ลั่นจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยารอด น้ำไม่ท่วมแน่
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่ จ.นครสวรรค์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 4 จ.นครสวรรค์ โดยมีนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สส.นครสวรรค์ เขต 2 นครสวรรค์รอต้อนรับ
ทั้งนี้นายภูมิธรรม สอบถามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยผู้ว่า ฯ นครสวรรค์ รายงานว่า ตอนนี้สถานการณ์น้ำปกติ สัปดาห์หน้าน้ำจะเข้ามาอีก โดยขณะนี้ระดับน้ำในเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง 4-5 เมตร ซึ่งมวลน้ำที่ไหลผ่านจ.นครสวรรค์มีน้อยและไม่ได้มีพายุเติมเข้ามา แต่สัปดาห์หน้าจะต้องลุ้นอีกครั้งเพราะว่าจะมีพายุอีกหนึ่งลูก ทั้งนี้เรามีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์
จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เดินทางไปยังเขื่อนเจ้าพระยา ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยระหว่างทางบินตรวจสถานการณ์น้ำและพื้นที่การเกษตร โดยบินผ่านบึงบอระเพ็ด จ. นครสวรรค์ แม่น้ำน่าน แม่น้ำเจ้าพระยา และเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
นายภูมิธรรม เผยว่า ดูจากด้านบนปัญหาที่จังหวัดสุโขทัยน่าจะคลี่คลายลง เพราะว่าการจัดการผันน้ำ การร่วมกันบูรณาการ ขณะนี้จึงเป็นเรื่องที่เราควรจะต้องแก้ไขเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชน จังหวัดสุโขทัยจะเป็นจุดที่รองรับน้ำทั้งหมด สิ่งที่มีการคิดขึ้นมาขณะนี้ เท่าที่ฟังจากเสียงประชาชน อยากได้สถานที่รองรับน้ำ เหมือนกับแม่น้ำปิง แม่น้ำวัง และแม่น้ำน่าน ซึ่งแม่น้ำปิงและแม่น้ำวังนำน้ำไปลงที่เขื่อนภูมิพล แม่น้ำน่านนำน้ำไปลงที่เขื่อนสิริกิติ์ แต่แม่น้ำยมไม่มีแหล่งระบายน้ำ เพราะฉะนั้นจึงถึงเวลาที่ต้องคุยกัน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตลอดในช่วงเวลาที่ฝนตก ถึงต้องมีแผนงานที่ชัดเจน ว่า ทั้งหมด สิ่งแวดล้อมจะกระเทือนแค่ไหน ชีวิตคนที่กระทบอยู่ในขณะนี้เป็นอย่างไร นำสิ่งเหล่านี้มาบวก ลบ ว่ามีความจำเป็นแค่ไหน ขณะนี้ประชาชนริมแม่น้ำยม เกิดเหตุอย่างนี้ทุกปี ไม่สามารถยืนอยู่ได้อย่างถาวร แต่ถ้าสามารถสร้างเขื่อนมารองรับได้ คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหา และจัดการได้มากขึ้น ข้อเสนอนี้เป็นปัญหาที่พี่น้องได้คุยกัน ในความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงชีวิตผู้คน ที่กระทบความยากลำบากตรงนี้ด้วย ว่าควรจะทำอย่างไร เมื่อนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ได้ 100% จะเสนอให้เรื่องน้ำเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องแก้ไขปัญหาในระยะยาว
“เท่าที่ได้พูดคุยกับนายกฯ ท่านก็เห็นใจประชาชนที่กำลังประสบเหตุ เวลานี้ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดำเนินการทำแผนทั้งหมด และเสนอว่าควรจะเป็นอย่างไร ให้เวิล์ดแบ็งค์มาศึกษาความจำเป็นรายละเอียดและผลกระทบอีกครั้งหนึ่ง ให้เกิดความชัดเจน และควรจะมีการแก้อย่างถาวร” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม ยังมั่นใจว่าพื้นที่ใต้เขื่อนดูแล้ว คนกรุงเทพฯ น่าจะสบายใจขึ้น เขื่อนสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ไม่มีปัญหาอะไร และจากกระบวนการรองรับน้ำหากมีพายุเข้าก็น่าจะเอาอยู่ ไม่น่าที่จะส่งผลกระทบรุนแรง การแก้ปัญหาน้ำ ต้องดูตั้งแต่ต้นน้ำ ถ้าบริหารจัดการได้ดี ข้างล่างก็ไม่มีปัญหา เพราะมีเขื่อนดักไว้เป็นส่วนๆ มีโอกาสที่จะกักน้ำได้ ฉะนั้นปีนี้ไม่น่าจะเหมือนปี 2554.-314.-สำนักข่าวไทย