พาณิชย์ย้ำพบร้านค้า-ผู้ถือบัตรทำผิดถอนสิทธิ์ทันที

นนทบุรี 4 ต.ค. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ย้ำชัดเจนหากร้านค้าและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสมยอมใช้บัตรผิดเงื่อนไขถอนสิทธิ์และยกเลิกใช้บัตร แถมเจอโทษอื่นอีก สั่งพาณิชย์และคลังจังหวัดทุกพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจด่วน มั่นใจหลังนำระบบบาร์โค้ดมาใช้ป้องกันได้แน่


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลางได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่คลังจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดที่ลงพื้นที่ติดตามการใช้สิทธิ์ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับการซื้อสินค้าร้านธงฟ้า โดยมีร้านธงฟ้าประชารัฐบางร้านฉวยโอกาสให้ผู้มีสิทธิ์เปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสดแทนนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์ได้รับรายงานจากพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม 1 ราย เป็นการกระทำเอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแลกเป็นเงินสดกับร้านค้าที่เข้าร่วม เพื่อไปซื้อสินค้าอื่นแทน  แม้ว่าร้านค้าจะไม่ได้ทำสัญญากับภาครัฐไว้ แต่หากตรวจสอบผิดจริงกระทรวงพาณิชย์จะถอดร้านค้านี้ออกจากการร่วมโครงการของภาครัฐทันที 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงไปตรวจสอบแล้วและให้กระทรวงการคลังไปดูผู้ถือบัตรที่กระทำการดังกล่าวจะต้องถอนบัตรสวัสดิการคืนหรือไม่ พร้อมกันนี้ยังกำชับให้คลังจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามและดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการกระทำดังกล่าวจริงถือว่าทั้งเจ้าของร้านค้าและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าข่ายทำผิดไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ความช่วยเหลือในการลดค่าครองชีพของประชาชน 


“คงต้องตรวจสอบอย่างแน่นอนให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 กระทรวงไปตรวจสอบและเป็นการกระทำแบบสมยอมกันหรือไม่ หากใช่ ถือเป็นการทำผิดไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ได้ และต้องดูว่าการกระทำนี้อาจจะเป็นส่วนน้อย แต่ประชาชนที่ใช้บัตรซื้อสินค้าตามโครงการนี้มีความพอใจและอยากให้รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทุกด้านอย่างเต็มที่ แม้ว่าช่วงแรกอาจจะล่าช้าบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าทุกด้านจะทันตามกำหนดเวลา” นายสนธิรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้ใดกระทำผิดไปจากเงื่อนไขที่กำหนดจะถูกกระทรวงพาณิชย์ถอนออกจากทะเบียนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและทางกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเรียกคืนเครื่อง EDC จากเจ้าของร้านทันที ส่วนผู้มีสิทธิ์ที่ร่วมกระทำผิดจะถูกตัดสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและอาจมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดด้วยรัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์ โดยขอให้ผู้มีสิทธิ์ทุกคนปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้บัตรอย่างถูกต้อง และกระทรวงพาณิชย์ยังจะดำเนินคดีด้านต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้น หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถแจ้งข้อมูลสายด่วน 1569 หรือแจ้งสำนักงานคลังจังหวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

นอกจากนี้ ระยะที่ 2 ของการดำเนินโครงการนี้หรือต้นปีหน้า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะยกระดับข้อมูลนำระบบบาร์โค้ดหรือคิวอาร์โค้ดมาใช้ เพื่อสามารถตรวจเช็คข้อมูลการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเกิดความรัดกุมและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยร้านค้าและประชาชนที่ถือบัตรจะได้รับความสะดวกมากขึ้น และช่วงปลายสัปดาห์นี้จะลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อตรวจตามเกาะต่าง ๆ ทามีร้านค้าธงฟ้า เพื่อจะได้รีบเร่งให้มีการตัดตั้งเครื่องรูดบัตร เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ สามารถมาใช้บริการกันได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

ครบ 20 ปี เหตุจลาจลคดีตากใบ จำเลยยังล่องหน

วันนี้ครบรอบ 20 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และยังเป็นวันที่คดีหมดอายุความ ในขณะที่การติดตามจับกุมตัวจำเลยยังไร้วี่แวว พาไปย้อนรอยเหตุการณ์และมุมมองของนักวิชาการต่อคดีนี้

รวบ “นัตตี้ ไดอารี่” ยูทูบเบอร์หลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์

ตำรวจร่วมกับดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อ