กรมศุลกากร เตรียมพร้อมรองรับกฎหมายฉบับใหม่บังคับใช้ พ.ย.นี้ มุ่งตรวจเข้มการค้าออนไลน์

กรมศุลกากร
เตรียมพร้อมรองรับกฎหมายฉบับใหม่บังคับใช้ พ.ย.นี้ มุ่งตรวจเข้มการค้าออนไลน์


กรมศุลกากร  2 ต.ค.- นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร
ประชุมมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ  2561 ให้แก่ผู้บริหารกรมศุลกากร
หัวหน้าส่วนราชการ นายด่านศุลกากร รองรับพระราชบัญญัติศุลกากร  2560 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 60
นี้ หลังจากได้ปรับปรุงพิกัดอัตราศุลกากร 
การพัฒนาระบบงานของกรมศุลกากร หลังจากผลจัดเก็บรายในปีงบประมาณ 60
จัดเก็บได้  104,785 ล้านบาท  ต่ำกว่าเป้าหมาย จำนวน 15,715 ล้านบาท  และในปีงบประมาณ 2561  กำหนดเป้าหมายจัดเก็บรายได้ จำนวน 111,000
ล้านบาท จึงมีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ ในหลายมิติ
ทั้งด้านการจัดเก็บภาษีสินค้า
e-commerce เพื่อตรวจเข้มงวดในการจัดเก็บภาษีสินค้า e-commerce  จัดทำฐานข้อมูลสินค้ากลุ่มเสี่ยง
และเชื่อมโยงข้อมูลกับต่างประเทศเพื่อการตรวจสอบ


 

รวมทั้งการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบสินค้า
การตรวจสอบการใช้สิทธิประโยชน์และพัฒนาฐานข้อมูลถิ่นกำเนิดในรูปแบบ
Mobile Application การป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญา
การเข้มงวดตรวจสอบการสำแดงราคา พิกัด ปริมาณ ค่าระวาง สิทธิประโยชน์ต่างๆ
การตรวจสินค้าแบบทีม และการตรวจสอบหลังการตรวจปล่อยสำหรับใบขนสินค้า (
Green
Line) 4) จัดตั้งศูนย์ข้อมูลการข่าวศุลกากร Customs
Intelligence Center (CIC) จัดทำข้อมูลความเสี่ยงจากการประมวลผลข้อมูลจากระบบ
Big Data 
ทำข้อมูลการข่าวเพื่อบริหารความเสี่ยง
และบูรณาการการตรวจสอบข้อมูลราคา 3 กรมภาษี 
เชื่อมโยงทั้งกรมสรรพกร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร
เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการจัดเก็บรายได้ ผ่านการตรวจสอบค่าสิทธิ์
การตรวจสอบราคาขายปลีก และการตรวจสอบบริษัทที่มีความเสี่ยง
และการใช้ระบบเทคโนโลยีในการควบคุมทางศุลกากร (
X-Ray 
CCTV e-Lock)

 


กรมศุลกากรได้จัดทำโครงการ พันธมิตรศุลกากร (Customs
Alliances)” เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารระหว่างภาคเอกชนกับกรมศุลกากร
ในการให้คำแนะนำติดต่อประสานงาน แก้ไขปัญหาและสร้างความชัดเจน
ลดข้อโต้แย้งที่จะเกิดขึ้นในด้านต่างๆทั้งปัญหาเชิงนโยบายและปัญหาหน้างานปกติ อาทิ
พิธีการศุลกากร พิกัดอัตราศุลกากร ราคา ถิ่นกำเนิด กฎหมายศุลกากร สิทธิประโยชน์
และปัญหาอื่นๆ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ศุลกากรจากส่วนกลาง (
Account Officer
Center : AOC) ทำหน้าที่ติดต่อประสานกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของแต่ละพื้นที่
(
Account Officer Expert) เพื่อแก้ปัญหาและ
ให้คำปรึกษาอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ 
สำหรับปีงบประมาณ 2561 นี้
กรมศุลกากรจะยังคงดำเนินการโครงการพันธมิตรอย่างต่อเนื่องและจะนำผลการประเมินมาปรับปรุง
แก้ไข พัฒนาต่อไป และจะเปิดรับสมาชิกใหม่ในระยะที่ 2 เร็วๆ นี้.-  สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่