สวนรื่นฤดี 23 ม.ค.- รอง ผอ.รมน. ย้ำบูรณาการทุกหน่วย เร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ยาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมือง แก๊งคอลเซ็นเตอร์และชายแดนภาคใต้ ควบคู่เสริมสร้าง มวลชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง
พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ประจำครั้งที่ 2/2568 โดยมี พลเอกเอกรัตน์ ช้างแก้ว ผู้ช่วย ผอ.รมน., พลเอกธงชัย รอดย้อย เลขาธิการ กอ.รมน. คณะผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. และ ทบ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารรื่นฤดี กอ.รมน.(ส่วนกลาง) พร้อมด้วย ผอ.รมน.ภาค และกอ.รมน.จังหวัด เข้าร่วมประชุมทางไกลผ่านจอภาพ สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสแรกที่ผู้บังคับหน่วยกรมฝ่ายเสนาธิการ ทบ. เข้าร่วมประชุมเพื่อขับเคลื่อนและบูรณาการการแก้ไขปัญหาความมั่นคง
ในช่วงต้นของการประชุมเป็นการสรุปสถานการณ์ของความมั่นคงในด้านต่าง อาทิ สถานการณ์ด้านการข่าว ผู้ลักลอบเข้าเมือง ยาเสพติด และชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลยังคงเดินหน้าแก้ปัญหาของประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงที่ได้มอบนโยบายให้กับ กอ.รมน. อาทิ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ น้ำท่วมดินโคลนถล่ม การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปัญหายาเสพติด โดยสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติด การยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด และการค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
จากการสรุปสถานการณ์ในรอบเดือนที่ผ่านมาพบว่าปัญหายาเสพติด ยังคงมีการลักลอบลำเลียงเข้ามายังฝั่งไทยผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนวโน้มคาดว่าจะมีการนำยาเสพติดเข้าสู่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และไม่ประมาท ส่วนสถานการณ์ผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีผลการจับกุมในพื้นที่ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่อนข้างสูง ประกอบกับมีคนไทยบางส่วนลักลอบเข้าไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้าน หรือถูกหลอกลวงให้เข้าร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับขบวนการนำพาและผู้ประกอบการที่จ้างวานในการกระทำผิดต่อไป สำหรับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ระหว่างการทบทวนกระบวนการปฏิบัติที่ผ่านมา เพื่อพิจารณากำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยเน้นย้ำการปฏิบัติการข่าวกรองเชิงรุก รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และภาคส่วนอื่นอย่างครอบคลุมและใกล้ชิด
ในที่ประชุม รอง ผอ.รมน. ได้มอบนโยบายและสั่งการในที่ประชุม ให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. และสำนักบริหารงานบุคคล กอ.รมน. ร่วมจัดทำกรอบแนวทาง การปรับโครงสร้างการจัดอัตรากำลังพลและแนวทางการบรรจุเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้มีความคล่องตัวกะทัดรัด โดยจะต้องกำหนดทิศทาง ขั้นตอน และกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับแผนงานโครงการต่าง ๆ ของ กอ.รมน. ต้องมีความสอดคล้องเชื่อมโยงแผนปฏิบัติราชการรายปี กอ.รมน. กับแผนระดับ 1 และระดับ 2 โดยต้องเป็นไปตามเป้าหมายตัวชี้วัดและผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ มีข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ และความชัดเจนเป็นรูปธรรม เกิดผลผลิตตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
พร้อมกันนี้ ขอให้ กอ.รมน. พัฒนาเครือข่ายภาคประชาชน กลุ่มมวลชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ภัยความมั่นคงต่างๆ พร้อมเสริมสร้างให้มีภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการส่งเสริม ปลูกฝังให้ชาวบ้านและชุมชนมีจิตสำนึกรักและหวงแหนในสถาบันหลักและผลประโยชน์ของชาติ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง และการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืน-313 .-สำนักข่าวไทย