“ทักษิณ” ยันจบปีนี้ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์จากเพื่อนบ้านต้องหายไป

นครพนม 18 ม.ค.-“ทักษิณ” บอกชาวนครพนม สำนึกบุญคุณไม่เคยลืมกันต้องตอบแทน ยันจบปีนี้ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์จากเพื่อนบ้านต้องหายไป เตรียมจับเข่าคุย “นาโอมิ” ส่งนางแบบโกอินเตอร์ ระบุปีหน้าเติมสเต็มเซลหนุ่มขึ้นแน่

ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการหาเสียงที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นเวทีที่ 2 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีประชาชนมารอรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก


โดยนายทักษิณ ปราศรัยว่า พี่น้องมากันตั้งหลาย พี่น้องชาวนครพนมมากันเยอะมาก ตนปลื้มมาก ย้ำว่าไม่ได้มานครพนมเกือบ 20 ปีแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้เกิดในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ตอนนั้นเราเห็นว่ามีแต่วิทยาลัยกระจัดกระจายกันไป จึงเอามารวมเป็นมหาวิทยาลัยดีกว่า ซึ่งตอนนั้นมีสองมหาวิทยาลัยคือนราธิวาสและนครพนม ที่ถูกอนุมัติให้เป็นมหาลัยตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ได้กลับมาชื่นชม มากันเยอะแยะอยากเจอตนหรือไม่ ทุกครั้งที่ออกมาเจอพี่น้องโดยเฉพาะพี่น้องชาวอีสานก็มีความปลื้มใจ พลังของคนอีสานและคนเหนือส่วนใหญ่ทำให้ตนสู้และได้กลับมาประเทศ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า พี่น้องไม่เคยลืมตน แม้ว่าเด็กรุ่นหลังอาจจะไม่รู้จักตน แต่พ่อแม่ก็พยายามจะเล่าให้ฟังว่าระหว่างที่ตนอยู่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้รู้ว่าพี่น้องเอามือล้วงเข้ากระเป๋าจะเจอแต่ตั๋วจำนำใช่หรือไม่ แต่สมัยที่ตนอยู่เอามือล้วงไปปุ๊บก็เจอแต่สตางค์ ตอนนี้เงินหายหมดเจอแต่ตั๋วจำนำ ตนบอกกับพี่น้องที่ธาตุพนมว่าปีนี้ล้วงไปถึงปลายปีล้วงไปจะไม่เจอตั๋วจำนำแล้ว และปีหน้าล้วงไปจะเจอสตางค์แล้ว พอปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยมาล้วงไปจะดันไม่เข้า เพราะเจอแต่สตางค์


นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ตนกลับมาแล้วเศรษฐกิจไทยต้องดีขึ้น ตนทนเห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ เพราะพี่น้องไม่เคยลืมตน ตนจึงขอทำงาน สทร. เสือกทุกเรื่อง ขอเสือกให้พี่น้องมีความสุขและสบายขึ้น พ้นหนี้ มีสตางค์ใช้ ตนเป็นคนที่มีความกตัญญูถือว่าพี่น้องมีบุญคุณกับตน ไม่เคยลืมตน ตนกลับมาแล้วก็ต้องชดใช้หนี้ และขอกตัญญูด้วยการช่วยเหลือให้ประเทศดีขึ้น รู้ว่าพี่น้องลำบากหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ฉะนั้น จึงขอให้กลับไปบอกพ่อค้ายาแถวบ้านว่าทักษิณกลับมาแล้ว หากอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นขอให้เลิกอาชีพค้ายา ทักษิณเกลียดพ่อค้ายาและจะเอาตาย ถ้าอยากให้รักกันก็เลิกดีกว่า ฉะนั้น สิ้นปีนี้เอายาเสพติดให้เกลี้ยงเลย

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ขนาด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังถูกหลอก มีการโทรไปหานายกรัฐมนตรี แล้วใช้เอไอทำเสียงเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้โอนเงินไปที่ฮ่องกง มันเล่นทุกรูปแบบ วันนี้กระบวนการใหญ่อยู่ที่พม่ากับที่เขมร เขมรให้ความร่วมมือดี เดี๋ยวจะเบาบางลง พม่าก็น่าจะจบ เพื่อนบ้านจะไม่มีพวกที่ทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฉะนั้น ปีนี้ต้องเอาให้จบเหมือนกัน

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ย้ำว่าวันที่ 27 มกราคมนี้ เงินหมื่นจะเข้าบัญชีคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เหลือต้องรอให้เทคโนโลยีดิจิทัลวอลเล็ตเสร็จในเดือนมีนาคม เมื่อเสร็จแล้วก็จะทำให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้เม็ดเงินอยู่ในพื้นที่ วันนี้เราต้องหาเงินกลับเข้ามาอยู่ในต่างจังหวัดหรือไม่ให้ออกไปซึ่งตอนนี้กำลังคิดสูตรอยู่เพื่อให้เงินอยู่กับพี่น้องล้วงไปจะได้เจอเงินบ้าง ไม่ใช่ล้วงไปเจอแต่ตั๋วจำนำ


“วันนี้นายกอิ๊งค์กับผม พ่อลูกคุยกันทุกวัน ปรึกษาหารือกันตลอด ผมมีประสบการณ์แนะนำ นายกอิ๊งค์เอาความเป็นคนรุ่นใหม่มาประกอบกันและพัฒนาประเทศเรา เรื่องเอไอนายกอิ๊งค์ตั้งใจอย่างเต็มที่อยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้การใช้เอไอสั่งการให้ทำงาน และในเรื่องของการศึกษา เข้าใจว่าจะมีการแจกแท็บเล็ตอีกรอบ เพื่อนำมาใช้สำหรับการศึกษา นายกอิ๊งค์อยากนำเงินที่กองฉลากจัดสรรให้ทำโรงเรียนหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝันอีกครั้ง เป็นโรงเรียนต้นแบบเอาคนที่ได้ที่หนึ่ง ส่งไปเรียนเมืองนอก จัดซัมเมอร์แคมป์ให้เด็กไทยได้ไปเรียนเมืองนอก เอาครูต่างประเทศมาจัดแคมป์ในเมืองไทย ปิดเทอมปีการศึกษาหน้า คงมีอะไรสนุกๆ อีกแน่“ นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ต่อไปนี้จะจริงจังในการคัดเลือกคน โดยจะให้มหาวิทยาลัยเป็นแกนนำร่วม อบจ. เพื่อคัดคนที่อยากเพิ่มความชำนาญให้ตนเองเพื่อเป็นอาชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าแรงงานขั้นต่ำ เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ตนได้ประชุมกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอน์แห่งชาติ ว่าจะคัดคนสวยแบบธรรมชาติไม่ต้องศัลยกรรม เพื่อให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน ใครอยากเป็นนางแบบระดับโลกก็จะคัดมาฝึก ซึ่งนพ.สรุพงษ์ บอกว่าอยากได้งบกลาง 20 ล้านบาท ตนเลยบอกว่าเดียวตนออกให้เอง เดียวหาสปอนเซอร์มาช่วย แต่ทุกคนต้องเปนแมวมอง ผ่านกองทุนหมู่บ้าน ไม่จำกัดเพศจะเป็น ชาย หญิง หรือเพศที่ 3 หากดูแล้วเหมาะที่จะเดินแบบได้ ก็คัดไปเอามาฝึก แต่อย่าพึ่งทำศัลยกรรม

“เราอยากได้คนที่มีความงามแบบไทยแท้ ปนเจ็ก ปบแขก ปนลาวก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ต้องงามแบบออริจินัล แบบที่ออกมาจากท้องแม่ เพราะในโลกคงอยากเห็นคนไทยแท้เป็นอย่างไร ถ้าบุคลิกดีเดินแบบได้ แปบเดียว ก็มีโอกาสทำเงินได้เป็นล้านๆ เรียนหนังสือไม่เก่งไม่เป็นไร แต่ขอคนที่ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน นายกฯบอกปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส ก็อยากจะสร้างโอกาสในทุกมิติ” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ นาโอมิ แคมเบล นางแบบระดับโลกจะเดินทางมาที่ประเทศไทย ก็จะมาคุยกับตนว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยได้เป็นนางแบบระดับโลกได้ ทั้งนี้ ตนนั่งผ่านริมแม่น้ำโขง บรรยากาศโรแมนติก ประชากร จ.นครพนม เพิ่มขึ้น ทั้งที่หลายจังหวัดเริ่มไม่ผลิต คนน้อยลง แสดงว่าบรรยากาศช่วยเหลือ ตนนั่งดูยังมองว่าริมโขงโรแมนติกไว้ผลิตลูก

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องรถไฟรางคู่เขาขยายไปทั่ว รถไฟเก่าช้าวิ่งแบบถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างจึงเกิดความรู้สึกว่ารถไฟช้านานๆ มาที วันหนึ่งมีคนขึ้นรถไฟแค่ 8 หมื่นกว่าคน คนใช้ก็บอกว่าให้ลงทุนแล้วทำให้รถไฟมาเร็วขึ้น แต่รถไฟก็บอกว่าพวกคุณก็ขึ้นก่อนเราจะได้มีเงินมาทำ ฉะนั้นเราจะทดลอง 20 บาทตลอดในกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าคนยังใช้น้อยเพราะต่อลำบากตั๋วร่วมก็ไม่มีแล้วก็เก็บแพง ตนจึงบอกว่าเรารัฐบาลซื้อคืนมาให้หมดแล้วจัดการให้เก็บตั๋ว 20 บาทตลอดสาย แล้วบอกว่ามีรถไฟถี่ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ขึ้นไม่ต้องรอรถไฟ รถจะได้ติดน้อยลง อากาศเสียน้อยลง ประชาชนจะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้นเพราะใช้เวลาน้อยในการที่จะเดินทางไปทำงาน และจะทำรถไฟเช่นนี้ทั่วประเทศไทยเพื่อให้มีความเร็วดีขึ้น ส่วนรถไฟจากลาวถึงหนองคายจะถึงกรุงเทพฯ แน่นอน และจากกรุงเทพฯ ไปถึงคุณหมิงได้แน่

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตอนแรกตนยังไม่แก่ แต่พอนั่งปุ๊บ ลุกขึ้นแก่แล้วนี่หว่า กระดูกกระเดี้ยวเริ่มเคลื่อน แต่ตนมีของดีและว่าอีกสักปีหน้าตนจะหนุ่มกว่าเดิมกว่าเดิม เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ที่เขาให้คนแก่หนุ่มขึ้น มีวิธีรักษาอวัยวะข้างในโดยการเติมสเต็มเซลล์ที่เป็นสเต็มเซลล์ของตัวเราเอาไปทำเอาให้เป็นสเต็มเซลเหมือนตอนเกิด และใส่เข้าไปจะซ่อมสิ่งที่สึกหรอในร่างกายร่างกาย ซึ่งตนกำลังเจรจากันอยู่ว่าเราจะทดลองที่ใดที่หนึ่งให้เป็นศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้หรือไม่ เช่นเทคโนโลยีทางด้านสเต็มเซล หรือด้านตัดต่อพันธุกรรม ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ว่าทำได้แค่ไหน ถ้าทำได้ประเทศไทยจะนำสมัยมาก และตนเป็นคนชอบเรื่องใหม่ๆ ไม่งั้นประเทศไทยจะช้ากว่าประเทศอื่น

“วันนี้ที่ผมต้องมาช่วยหาเสียงให้อบจ. เพราะผมอยากได้กำลังภาคพื้นดิน ภาคจังหวัดที่จะต้องช่วยกันดูค้นหาคนมาร่วมกับมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของนายกอิ๊งค์ก็ดี การหานางแบบนายแบบระดับโลกก็ดี เราต้องอาศัยอบจ.ช่วยกัน ฉะนั้น จึงอยากได้นายกอบจ.ของพรรคเพื่อไทยเยอะๆ เพื่อจะได้ดูแลกันอย่างทั่วถึง วันนี้จึงต้องมาฝากนายอนุชิตเบอร์แปดให้เป็นนายกอบจ. ต้องเอาคนหนุ่มมาใช้งานเพราะผมใช้งานหนัก ผมเป็นคนที่ชอบให้คนทำงาน และจึงขอให้นายอนุชิตมาเป็นมือไม้ในการทำงานช่วยผม และอย่าลืมหามือไม้ให้นายอนุชิต โดยการเลือก อบจ.ด้วย เอาทั้งทีมไม่งั้นจะทำงานไม่ได้” นายทักษิณ กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย