สว.วันไชย จี้ถามรัฐจะทำอย่างไร “ฟรีวีซ่าจีน” ทำไทยกลายเป็นฮับอาชญากรรม

รัฐสภา 20 ม.ค.-สว.วันไชย ตั้งกระทู้ถาม “ฟรีวีซ่าจีน” ทำไทยกลายเป็นฮับอาชญากรรม จี้ถามรัฐจะทำอย่างไร ชี้รอบบ้าน “บ่อน-แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ครบ ด้าน “บิ๊กเล็ก” บอกอาจตอบไม่ตรงประเด็นนึกว่าจะถามงานของ “กลาโหม”

การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระกระทู้ถามสด้วยวาจา พลตำรวจโท วันไชย เอกพรพิชญ์ สว. ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ตอบแทน


พลตำรวจโท วันไชย กล่าวว่า รัฐบาลควรจะมีการทบทวนนโยบายฟรีวีซ่า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน หรือประเทศอื่นที่ใช้ไทยเป็นฐานก่ออาชญากรรม มันเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้เราจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ก็มีผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสม เราจะกลายเป็นฮับของอาชญากรรมแล้วอย่างนั้นหรือ องค์ประกอบของเราช่างเหมาะเจาะมาก รอบๆเรา ลองคิดดูว่าในพื้นที่รอบไทยเรามีบ่อนกาสิโนอยู่รอบบ้าน นอกจากบ่อนแล้ว รอบบ้านเรายังเป็นอาณาจักรของแก๊งออนไลน์ด้วย

“จะเห็นว่าองค์ประกอบครบถ้วน แล้วเราก็ยังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว กรณีซิงซิงผ่านไปแล้ว ก็ยังมีอีก ตอนนี้ประเทศจีนกวาดล้างอาชญากรรม จากเมียนมามากัมพูชา มันทะลัก สุดท้ายไปไหนครับ มาที่บ้านเรา มาอยู่ที่ประเทศไทยเรากลายเป็นฐานอย่างดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ผมขอกราบเรียนว่าช่องว่างของฟรีวีซ่า รัฐบาลต้องรีบดำเนินการ” พลตำรวจโท วันไชย กล่าว


พลตำรวจโท วันไชย ลงรายละเอียดว่า การขยายเวลาฟรีวีซ่าในการอยู่ประเทศไทย ทำให้มีโอกาสเกิดอาชญากรรมข้ามชาติมากขึ้น รวมถึงผลกระทบต่อความมั่นคง วันนี้จีนจะมาประเทศไทย ในประเทศเองเขายังเที่ยวกันไม่หมดเลย การสกัดกั้นเราก็ไม่แน่ใจว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น รัฐบาลอาจจะเปลี่ยนมาเป็นฟรีวีซ่า on arrival ต้องมีหลักฐานข้อมูลการจองโรงแรม รายละเอียดการเดินทาง นอกจากนี้จำเป็นต้องมีมาตรการดูแลชายแดนด้วย ท่านมีแนวทางแก้ไขจุดอ่อนของฟรีวีซ่าที่ไม่ได้ดึงดูดเพียงแค่นักท่องเที่ยวนักธุรกิจนักลงทุนกลุ่มจีนเทา เพื่อไม่ให้มันออกก่ออาชญากรรมหรือแย่งอาชีพคนไทยอย่างไร

จากนั้น พลเอก ณัฐพล ชี้แจงว่า ตนเข้าใจว่าพลตำรวจโท วันไชย จะถามถึงขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม ซึ่งเมื่อถามเรื่องฟรีวีซ่า ตนต้องกราบขออภัยท่านประธานและสมาชิกว่าตนอาจจะตอบได้ไม่ตรงประเด็นนัก แต่อย่างไรก็ตามจะนำประเด็นนี้ไปบอกกล่าวกับรัฐมนตรีที่กำกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรืออาจจะขอให้ตั้งกระทู้สดใหม่อีกครั้งหนึ่งไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง

ไหนๆ ท่านได้กล่าวถึงหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม กรณีเรื่องฟรีวีซ่า ตนทราบว่าในเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจ เพราะรายได้หลักของประเทศไทยมาจากการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้น การที่ทำให้มีฟรีวีซ่าก็เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้น


“ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือคนดีได้ประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันคนไม่ดีก็แสวงหาประโยชน์ในช่องทางนี้ด้วย ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในการที่จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการกำกับดูแล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ปัญหานี้เกิดมา เพราะมีคนบางคน มีเจ้าหน้าที่ไทยบางคน ที่ร่วมมือกับกลุ่มกระบวนการนี้ ทำให้การแก้ปัญหานั้นทำได้ยาก ซึ่งคงต้องมีการเร่งรัดในการป้องกันและแก้ไข โดยคงไม่ต้องรอเนิ่นนาน ต้องมีการประเมินว่าคุ้มค่าหรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ที่ได้รับกับข้อเสีย ผมจะไปกราบเรียนรัฐบาลเพื่อทราบในประเด็นที่ท่านถาม” พลเอก ณัฐพล กล่าว

พลเอก ณัฐพล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในการประชุมหน่วยงานความมั่นคง เราทราบว่านักท่องเที่ยวหรือขบวนการที่เดินทางเข้ามาในประเทศบ้านเรานั้น 20% เป็นการเข้าจากประเทศไทย แล้วไปลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ในฐานะกระทรวงกลาโหมมีความรับผิดชอบตามแนวใช้แดน เราได้มีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยกลไกลที่กระทรวงกลาโหมมีอยู่ รวมถึงเข้มงวดในการตรวจบุคคลเข้าออกตามแนวชายแดน ทั้งเข้าทางช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติ กระทรวงกลาโหมได้เสนอแนะรัฐบาลไทยมีการเจรจากับรัฐบาลประเทศที่ 3 ในการจัดการปัญหาเรื่องนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาใช้ ป้องกันการค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องยาเสพติด อุปกรณ์ชิ้นเดียวเราใช้หลายความมุ่งหมาย

จากนั้น พลตำรวจโทวันไชย กล่าวว่า ตนเชื่อในเจ้าหน้าที่ที่สามารถตรวจสอบได้ วันนี้เทคโนโลยีที่ใช้ก็เพียงพอแล้ว แต่ตนอยากจะฝากเรื่องชายแดน ด่านชายแดนเป็นด่านสำคัญที่ไม่สามารถสกัดกั้นคนที่เป็นกลุ่มอาชญากรรม ตนเชื่อว่ารัฐบาลแก้ปัญหานี้ได้ง่ายนิดเดียว ฝากเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือให้กับคนที่ทำงานอยู่ที่ชายแดน วันนี้ศักยภาพของเจ้าหน้าที่ทำเต็มที่ วันนี้ท่านได้มารับฟังปัญหาในสภาแล้ว ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข

“เราก็ได้พูดกันไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอลเซ็นเตอร์ มันเห็นกันอยู่ ข้ามไปเนี่ย มันเห็นกันอยู่ แล้วมาถอนเงินจากธนาคารในประเทศไทย ก็ยังเห็นกันอยู่” พลตำรวจโท วันไชย กล่าว

ทำให้ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า “ตัวผมเอง เวลาที่ได้รับมอบให้มาตอบกระทู้ในสภา ผมมีความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเวทีที่ผมได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้รับทราบในการทำงานที่กระทรวง เพราะฉะนั้น ผมต้องขอกราบพระคุณท่านสมาชิกทุกท่านที่ได้กรุณาแนะนำให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทางกระทรวงกลาโหมกำลังดำเนินการ ขออนุญาตกราบเรียนสั้นๆ ว่า อุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล เวลาที่กระทรวงกลาโหมพิจารณาใช้เราใช้ประโยชน์หลายอย่าง ซึ่งในเร็วๆ นี้เราจะมีการเพิ่มกำลังตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มความถี่ในการตรวจเรื่องยาเสพติด โอกาสเดียวกันนี้กำลังส่วนนี้ก็จะปฎิบัติภารกิจเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ การลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย”.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]