ไทยประกาศส่งเสริมทำนาลดก๊าซเรือนกระจก-ผลิตสินค้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

สมาพันธรัฐสวิส 23 ม.ค.-รมว.เกษตรฯ นำเสนอที่ประชุม First Movers Coalition ไทยส่งเสริมการทำนาแบบลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดรับนโยบายสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของทั่วโลก

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมการประชุมและเสวนา Meeting of the First Movers Coalition Leaders ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนความสำเร็จและแนวทางในการผลักดันให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวหรือ Green Procurement


ศ.ดร.นฤมลนำเสนอในที่ประชุมว่า ประเทศไทยนำรูปแบบการทำนาแบบเปียกสลับแห้งมาทดลองโดยเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสม โดยพบว่า ลดการใช้น้ำได้ถึงร้อยละ 50 ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทน และสามารถเพิ่มผลผลิตได้ร้อยละ 25-40 โดยสามารถต่อยอดเป็นคาร์บอนเครดิตซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทาย ทั้งจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน รวมถึงเกษตรกรไทยที่สูงวัยมากขึ้น ทำให้ต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในภาคการเกษตร เพื่อให้เกิดการความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศมีอาชีพทำนา ดังนั้นจึงให้ความสำคัญต่อการสร้างการรับรู้ของเกษตรกรถึงประโยชน์ของการทำนาแบบเปียกสลับแห้งว่า จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งจะส่งผลให้เป็นการลดผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ โดยเป็นแนวทางที่สอดรับกับนโยบายของนานาประเทศที่ต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นไปตามที่ที่ประเทศไทยได้ให้คำมั่นไว้ในการประชุม COP 26 การถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องให้กับเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ เช่น Smart Farmers / Young Smart Farmers / Agricultural Village Volunteer เพื่อขยายผลองค์ความรู้ให้เกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ


ศ.ดร.นฤมลกล่าวต่อว่า สิ่งที่ภาครัฐต้องสนับสนุน คือ โครงสร้างพื้นฐานในการปรับเปลี่ยนการทำนาแบบดั้งเดิมมาเป็นแบบเปียกสลับแห้ง ทั้งในเรื่องของชลประทาน ตลอดจนการปรับหน้าดินของแปลงนา ปัจจุบันไทยมีกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งความท้าทายสำคัญของประเทศไทย ประการแรก คือ การสร้างโอกาสให้กับเกษตรกร ให้สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตแบบดั้งเดิมให้เป็นการผลิตที่ตรงกับความต้องการของตลาด เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายยกระดับภาคเกษตรไทยให้เป็นเกษตรมูลค่าสูงและส่งเสริมทำเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของโลก ผลักดันแนวคิด ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ โดยภาครัฐ นำเทคโนโลยีทางการเกษตร (Agri-Tech) มาใช้ เพื่อให้คนในภาคการเกษตรสามารถเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับเกษตรกรไทย

การเข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2025 ครั้งนี้ทำให้เห็นว่า ทั่วโลกให้ความสำคัญภาคเกษตรและความมั่นคงอาหาร โดยเฉพาะการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การทำเกษตรที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะกลับไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขยายผลให้ประเทศไทยต่อไป.-512.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง