แห่ขันหมากนำคู่รักจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม

23 ม.ค. – ที่เชียงใหม่ เช้านี้ อบอวลด้วยกลิ่นไอแห่งความรัก และคึกคักด้วยขบวนแห่ขันหมาก นำคู่รักหลากหลายทางเพศ ไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมถึง 7 คู่ ส่วนที่ลำพูน คู่รักนั่งสามล้อไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม


บรรยากาศคึกคัก ขบวนแห่ขันหมาก พร้อมเสียงปี่ กลอง ของบรรดาญาติและเครือข่ายกลุ่มหลากหลายทางเพศ ที่นำขบวนแห่อย่างคึกคัก นำคู่รักหลากหลายทางเพศ ทั้งชายรักชาย หญิงรักหญิง จับไม้จูงมือพากันไปจดทะเบียนสมรสเท่าเที่ยม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข และรอยยิ้มของคู่รักและผู้มาร่วมงาน มีการตกแต่งด้วยธงสีรุ้ง สดใสสวยงาม ซึ่งการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันนี้ ถือเป็นจดเริ่มต้นในการใช้ชีวิตคู่อย่างสมบูรณ์ทั้งในการดำเนินชีวิตคู่ และทางกหมาย

คุณป้อมและคุณอั๋น คู่ชายรักชาย ที่ครองรักกันมากว่า 10 ปี บอกว่า ไม่อยากจะเสียเวลาแม่แต่วันเดียว จึงตั้งใจมาจดทะเบียนสมรสในวันนี้ ด้วยความรักที่ครองคู่กันมายาวนาน และด้วยปัญหาสุขภาพของคู่ครองซึ่งเป็นโรคไต จึงอยากจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อต้องการจะเริ่มขบวนการในการบริจาคไตให้คู่รัก หวังครองคู่และดูแลกันให้นานที่สุด


ด้านคุณเอื้อและคุณหวาน คู่รักหญิงรักหญิง เป็นคู่แรกที่ได้จดทะเบียนสมรส ในวันนี้ บอกว่า รู้สึกดีใจ ที่วันนี้ประชาชนคนไทยทุกคนสามารถจดทะเบียนสมรสได้โดยไม่จำกัดแค่ชายหรือหญิง ทำให้คามรักเปิดกว้างมากขึ้น และทำให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิพื้นฐานที่ควรมี

ไม่เพียงแต่คู่รักเท่านั้น ที่ดีใจมากที่มีวันนี้ ทางด้าน นายศิริศักดิ์ ไชยเทศ หรือ ต้น นักกิจกรรมอิสระด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อความหลากหลายทางเพศ บอกว่า รู้สึกดีใจ ที่ในวันนี้การต่อสู่เพื่อสิทธิมาอย่างยาวนาน สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนจากคำว่า ชายหญิง เป็นบุคคล ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการสมรสได้ในที่สุด

ที่ จ.ลำพูน คู่รัก LGBTQ+ ที่จะไปจดทะเบียนสมรส 3 คู่ พร้อมสักขีพยาน ได้มารวมตัวกันที่อนุเสาวรีย์พระนางจามเทวี ก่อนจะนั่งรถสามล้อเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางตัวเมืองลำพูน ผ่านหน้าวัดหริภุญชัย ไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองลำพูน เพื่อจดทะเบียนสมรส โดยมีนายยุทธพงศ์ ไชยศร นายอำเภอลำพูนและคณะสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดลำพูน มาต้อนรับและร่วมแสดงความยินดี พร้อมบอกว่า วันนี้กฎหมายเปิดโอกาสให้ทุกคนทุกเพศทุกวัย ที่เป็นคู่รักมีสิทธิจดทะเบียนได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมแล้ว จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและพร้อมต้อนรับทุกคู่รักให้มาจดทะเบียนได้ที่จังหวัดลำพูน


โดยที่ว่าการอำเภอเมืองลำพูนเช้านี้ มีคู่รักคู่แรก เป็นคู่รักหญิงกับหญิง ชาวเชียงใหม่ อายุ 64 และ 59 ปี ที่มาจดทะเบียนตั้งแต่ 08.00 น. สำหรับคู่รัก ทั้ง 3 คู่ ที่มาร่วมกิจกรรม นั่งสามล้อไปจดทะเบียนที่ลำพูนวันนี้ ส่วนใหญ่คบหาดูใจมามากว่า 10 ปี ต่างบอกว่าดีใจที่มีวันนี้หลังรอคอยมานาน จากนี้จะได้ไม่ต้องกังวล ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาลที่สามารถให้คู่สมรสตัดสินใจได้เลย และมีสิทธิอันชอบธรรมทางกฎหมายทุกประการ

นายวุธสิทธิกร จันตรี ผู้อำนวยการกลุ่มอาสาสมัครเพื่อการพัฒนาชุมชนและการคุ้มครองสิทธิ หรือVCAP วีแคป บอกว่าคบมา 15 ปี เข้าปีที่ 16 แต่งไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยการรับบุตรบุญธรรมมาดูแล แต่ยังติดอุปสรรคทางกฎหมายและเรื่องธุรกรรมหลายอย่าง เมื่อกฎหมายเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ+ จดทะเบียนสมรสได้ ก็ดีใจมากที่มีวันนี้หลังรอคอยมานาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น