“โรม” รอชัด เคาะมาตรการตัดไฟพื้นที่เสี่ยงอาชญากรรมข้ามชาติ

รัฐสภา 23 ม.ค.-“โรม” รอความชัดเจน ที่ประชุม กฟภ.-หน่วยงานความมั่นคง เคาะมาตรการตัดไฟพื้นที่เสี่ยงเอี่ยวอาชญากรรมข้ามชาติ 29 ม.ค.นี้ เผย สมช.ขอร่วมถกด้วย เหตุกิจกรรมที่ดำเนินในพื้นที่ชายแดนกระทบต่อความมั่นคง


นายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการความมมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงการซื้อขายไฟฟ้าบริเวณแม่สาย จ.เชียงราย ว่า ประเทศไทยขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด 17 จุด ซึ่งกรรมาธิการให้ความสำคัญกับการขายไฟที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก ไปยังจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เนื่องจากเชื่อว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด และมีบทบาทสำคัญให้แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เช่าพื้นที่ รวมทั้งมีความเกี่ยวพันธ์กับกองกำลังในพื้นที่เมียวดี จึงไม่ต่างจากการที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำสัญญาขายไฟให้กับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และการขายไฟฟ้าจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปยังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งตอนนี้กำลังเปลี่ยนบริษัทคู่สัญญา ที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท และมีบุคคลสำคัญในบริษัทเป็นผู้หญิงที่อายุยังน้อย ไม่รู้เบื้องหลังเป็นอย่างไรถึงจะทำสัญญากับการไฟฟ้า แต่การที่กฟภ.ชี้แจงว่าทางท่าขี้เหล็กเป็นผู้เสนอชื่อมา แต่ส่วนตัวสงสัยว่าเหตุใดกฟภ.จึงต้องยอม เพราะตามหลักการกฟภ.ควรจะทราบถึงข้อมูลของคู่สัญญา จึงกลายเป็นข้อสงสัยว่าจะเป็นการขายไฟฟ้าให้กับนอมินีของหว้าที่เป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่

ส่วนจะดำเนินการอย่างไรหลังจากนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การไฟฟ้ายังไม่มีความชัดเจนเรื่องการตัดไฟฟ้าเลย แต่ทราบว่าจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 29 มกราคม 2568 คาดมีความเป็นไปได้ 3 แนวทาง คือ


  1. กฟภ.จะคงสภาพการจ่ายไฟฟ้าต่อไปโดยไม่สนว่าจะตกไปอยู่ในมือของใคร
  2. กฟภ. จะคงสภาพการจ่ายไฟฟ้าต่อขยายสัญญากับบริษัทคู่สัญญาเดิมต่อไป
  3. ตัดการจ่ายไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าไปอยู่ในมือของอาชญากรข้ามชาติ

ทั้งในระหว่างการหารือกับกรรมาธิการ สมช.ได้แจ้งว่าอยากจะเข้าร่วมการประชุมกับ กฟภ. ในวันที่ 29 มกราคมนี้ด้วย หลังการไฟฟ้าอ้างว่ารู้มีข้อมูลการขายไฟฟ้า แต่ไม่มีศักยภาพที่จะรู้ได้ว่าจะไปตกอยู่ในมือของอาชญากรหรือไม่ จึงอยากให้ฝ่ายความั่นคงช่วยชี้เป้า เช่นเดียวกับ สมช. ที่เห็นว่าสิ่งที่มันมีการดำเนินการกันอยู่กระทบต่อความมั่นคง อีกทั้งยังพูดชัดว่ากิจกรรมที่ดำเนินในพื้นที่ชายแดนค่อนข้างกระทบต่อความมั่นคง สมช.จึงต้องการเข้าร่วมการประชุมเพื่อร่วมให้ความเห็น และกรรมาธิการ ก็ต้องการให้กฟภ.รับฟังเพราะข้อมูลค่อนข้างประจักษ์ชัด และกฟภ.ยังขาดข้อมูลที่ทางการเมียนมาออกแถลงการณ์สแกมเมอร์ยังคงอยู่ได้ เพราะประเทศไทยขายไฟฟ้าให้.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม