ทำเนียบ 20 ม.ค.-รัฐบาลสั่งทุกกระทรวงเกาะติดและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนใช้โดรน และ AI ในไร่อ้อย ลดการเผาอ้อย สั่งเข้ม “นิคมสหกรณ์” ห้ามเผาในเขตพื้นที่เด็ดขาด พบฝ่าฝืนตัดสิทธิทันที
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการเร่งแก้ไขปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ในการลดมลพิษไม่ว่าจะเป็นส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอีกหลายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม โดยเฉพาะมาตรการเกี่ยวข้องกับพืชผลทางการเกษตรที่มีการเผา เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิด PM 2.5 โดยให้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประกอบการงดการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และสั่งการให้บังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดกับผู้เผาป่า เผาตอซังข้าว ข้าวโพด อ้อย และพืชอื่น ๆ
นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ของรัฐบาล และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดฝุ่น PM 2.5 ไม่สร้างผลกระทบให้กับประชาชนและชุมชนใกล้เคียง รัฐบาลส่งเสริมให้เกษตรชาวไร่อ้อยนำเทคโนโลยีโดรนเข้ามาใช้ในพื้นที่ปลูกอ้อยกว่า 10,000 ไร่ ซึ่งโดรนจะติดตั้งระบบ AI เพื่อใช้ในการตรวจวัดคุณลักษณะอ้อยให้แม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกอ้อยสดและอ้อยเผาไฟ ลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิต ช่วยรักษาคุณภาพน้ำตาลของโรงงาน ทั้งนี้ การนำ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์คุณภาพผลผลิตตันต่อไร่ และค่าความหวานของอ้อย จะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลสามารถวางแผนการเก็บเกี่ยวในช่วงที่อ้อยมีคุณภาพสูงสุด เพิ่มรายได้ให้กับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย รวมถึงปฏิรูปอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่มีความยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ภาคการเกษตร ในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์ โดยสั่งการไปยังสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ที่มีพื้นที่ Hotspot ให้ตรวจสอบกวดขัน “นิคมสหกรณ์” ในพื้นที่รับผิดชอบให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่ให้มีการเผาในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์โดยเด็ดขาด หากตรวจสอบพบว่ามีเกษตรกรสมาชิกที่ฝ่าฝืน เผาในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์จะดำเนินการชะลอการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ (กสน.3) และชะลอการได้รับหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) ซึ่งเป็นเอกสารที่สามารถนำไปขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายที่ดินได้
“ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร และการเผาในพื้นที่เกษตร เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตพืชเศรษฐกิจให้ได้หลายรอบต่อปี เช่น การเผาใบอ้อย ตอซังฟางข้าว และตอซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้ภาคเกษตรกรรมเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รัฐบาลขอความร่วมมือเกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะนำ และคำแจ้งเตือนจากส่วนราชการอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนเกษตรกรจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด” นายอนุกูล กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย