กทม. 20 ม.ค.-คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ เช้านี้ ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 70 พื้นที่ คาดความเข้มข้นของฝุ่นละอองจะเพิ่มขึ้นถึงวันที่ 24 ม.ค.นี้ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยก่อนทำกิจกรรมนอกบ้าน
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
: ประจำวันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
: ตรวจวัดได้ 37.6-73 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม 🟠 เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 70 พื้นที่ คือ
1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 73.0 มคก./ลบ.ม.
2.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 68.2 มคก./ลบ.ม.
3.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 67.5 มคก./ลบ.ม.
4.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 67.1 มคก./ลบ.ม.
5.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 66.4 มคก./ลบ.ม.
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
ในช่วงวันที่ 20 – 26 ม.ค. 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน” ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. จากนั้นจะมีแนวโน้มลดลงในวันที่ 25-26 ม.ค. เนื่องจากการระบายอากาศดีขึ้น
ขณะที่วันนี้และวันพรุ่งนี้ (20-21 ม.ค.) ที่ กทม. ขอความร่วมมือทำงานที่บ้านหากบริษัทใดสามารถทำได้ หลังจากพบปัจจัยสภาพอากาศปิดและส่งผลกระทบต่ออัตราการระบายฝุ่น ทำให้ทั่วพื้นที่ มีระดับ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ตามที่มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้นั้น
ทีมข่าวสำรวจสภาพการจราจรตั้งแต่บริเวณสี่แยกสาทร ตั้งแต่ช่วงเช้า 7.00 น. พบว่าการจราจรคล่องตัวขึ้นเล็กน้อยแต่มีการติดขัดหลังช่วงเวลา 08.00 น. จากการสอบถามจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ ระบุวันนี้ลูกค้าน้อยลงจริง คาดบางคน WFH
แต่ก็ยังพบว่าพนักงานออฟฟิศจำนวนหนึ่งต้องออกมาทำงานตามปกติ เพราะไม่ใช่วันที่ทำงานที่บ้านในส่วนของตัวเอง และที่ออฟฟิศย่านนี้ ส่วนหนึ่งก็มีการแบ่งวันกันทำงานที่บ้านอยู่แล้ว
ขณะที่บางคนยอมรับว่าไม่ทราบประกาศการขอความร่วมมือทำงานที่บ้านของกทม. อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการลดจำนวนรถยนต์ลงจะช่วยบรรเทาปัญหาได้เพราะปกติการจราจรติดขัดมาก ซึ่งจากการสำรวจพบว่าบางคนก็ไม่ได้สวมหน้ากากเมื่อออกมาเดินในกลางแจ้ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมกับ กรุงเทพมหานคร เป็นภาคีเครือข่ายWFH แล้วประมาณ 100,000 คน โดย กทม.ระบุหากพบว่าฝุ่น PM 2.5 ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น กรุงเทพมหานครจะขอความร่วมมือให้ประชาชนเวิร์คฟอร์มโฮมต่อไปจนถึงวันที่ 24 มกราคม.-417.-สำนักข่าวไทย
