พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

กรุงเทพฯ 19 ม.ค. – พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67


กรณีนายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊ก ชีโร่ อายุ 63 ปี นักร้องชื่อดัง ขับรถตู้ยี่ห้อฮุนได ชนรถจักรยานยนต์ ทำให้ น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี เสียชีวิต และนายจักรภัทร อายุ 21 ปี ตกสะพานสูง 10 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567

ล่าสุดนายจีรวัฒน์ พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายจักรภัคร หรือ จูเนียร์ อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็ก ที่ถูกติ๊ก ชีโร่ ขับรถชนจนบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตแล้วเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) หลังรักษาตัวนาน 70 วัน พร้อมเปิดเผยว่า เคยได้รับการช่วยเหลือแต่ยังไม่ได้รับการเยียวยา และไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ โดยเสนอโฉนดที่ดินให้ แต่จะได้เงินต่อเมื่อขายได้ ยอมรับรู้สึกกังวลจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะสูญเสียลูก 2 คนแล้ว


นายจีรวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้มาติดต่อทำเอกสารเพื่อรับร่างลูกไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ผ่านมาน้องจูเนียร์ นอนอยู่โรงพยาบาล 70 วัน และออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 เพื่อไปพักฟื้นอยู่ที่ศูนย์พักฟื้นไม่ได้อยู่บ้าน หลังออกจากโรงพยาบาลน้องอาการดีขึ้น แต่ยังไม่ได้สติ มีสภาพเจาะคอ ให้อาหารทางสะดือ และใส่ท่อปัสสาวะ และเมื่อวานพาน้องมาหาหมอฉุกเฉิน เบื้องต้นมีการติดเชื้อที่ปอด แต่รายละเอียดว่าเสียชีวิตเพราะอะไรต้องรอหมอนิติเวชผ่าชันสูตร แจ้งอีกครั้ง

ระหว่างพักฟื้น ติ๊ก ชีโร่ มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล 3 ครั้ง ส่วนการเยียวยาตั้งแต่เกิดเหตุที่ลูกคนโต คือ น.ส.เทียนพร เสียชีวิต ติ๊ก ชีโร่ ช่วยเงินมา 100,000 บาท เป็นค่าทำศพ และจ่ายค่าศาลาวัดให้ 70,000 บาท จากนั้นช่วยเหลือ หลังจากน้องจูเนียร์ ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ศูนย์พักฟื้น โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงให้

ส่วนค่าเยียวยาทั้งหมด นายจีรวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยคุยติ๊ก ชีโร่ เมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม 2567 ว่าจะยังไงกัน โดยได้เรียกร้องเงินไปจำนวนหนึ่ง แต่ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีการตอบรับอะไรมา ซึ่งพ่อไม่ขอเปิดเผยยอดเงิน และในตอนนั้น ติ๊ก ชีโร่ ก็รับรู้รับทราบแล้ว บอกจะไปพิจารณาแล้วจะแจ้งกลับมา โดยมีการพูดคุยกันเป็นระยะ หลังพูดคุยก็เงียบไป


ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจจะต้องส่งสำนวนให้อัยการ แต่ที่ผ่านมาตกลงเรื่องการเยียวยากันไม่ได้สักครั้ง เพราะทางติ๊ก ชีโร่ ไม่ได้มาเจรจาด้วยตนเอง ส่งตัวแทนมา ซึ่งในวันดังกล่าวตำรวจบอกถ้าไม่มาจะต้องสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว ทำให้ในวันนั้น ติ๊ก ชีโร่ ส่งตัวแทน เป็นน้องสาวมาเจรจา และแจ้งยอดเยียวยามาให้ทราบ ซึ่งน้อยกว่าเดิมที่ได้พูดคุยกันไว้ และบอกว่าเป็นยอดเยียวยาสำหรับน้อง 2 คน คือ คนที่เสียชีวิตคนแรก และคนเล็กที่รักษาตัวอยู่ เพราะในวันที่เจรจาน้องจูเนียร์ยังไม่เสียชีวิต

แต่การเยียวยาไม่ได้จะเยียวยาเป็นเงินสด โดยเสนอมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ราคาประมาณ 4-5 ล้านบาท แต่ไม่ได้บอกว่ากี่ไร่ และไม่ได้เห็นตัวโฉนดที่ดิน ถ้าขายได้จะนำเงินมาให้ แต่ไม่รู้จะขายได้เมื่อไร หรือถ้าจะไม่รอเงินที่ขายได้ก็พร้อมจะโอนโฉนดให้เป็นชื่อพ่อ ซึ่งตนเองได้ตอบไปแล้วว่าเงื่อนไขที่ยื่นมารับไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าราคาที่ดินจะเป็นไปตามที่แจ้งหรือไม่ และไม่รู้ว่าจะขายได้เมื่อไรด้วย รวมถึงวงเงินที่เสนอมา ดูแลน้องที่ป่วยได้ไม่เกิน 2-3 ปี คงจะหมด แล้วครอบครัวคงไปต่อไม่ได้ จึงได้ปฏิเสธไป

ทั้งนี้ หลังจากน้องเสียชีวิต พ่อและครอบครัวยังไม่ได้ติดต่อติ๊ก ชีโร่ วันนี้จึงอยากให้ช่วยพิจารณาการเยียวยา เพราะน้องอีกคนเสียชีวิตแล้ว

นายจีรวัฒน์ ยอมรับว่ารู้สึกกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาดูการกระทำและพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุก็มาพูดคุยดี ติดต่อกัน แต่สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำยังย้อนแย้งกัน เคยบอกว่ายินดีรับผิดชอบ จะดูแลทุกอย่าง ตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ แต่ความเป็นจริงไม่ค่อยมี ถ้าไม่ทวงถามก็เงียบไป และในทางกลับกันบอกว่ายอมรับผิดแต่กลับไปสู้คดีร้องขอความเป็นธรรม พยายามทำคดีให้เป็นประมาทร่วม ซึ่งย้อนแย้งกับสิ่งที่เขาพูด พูดอย่างหนึ่งปฏิบัติอย่างหนึ่ง หลังจากนี้หากไม่ได้รับการเยียวยาคงต้องไปว่าในกระบวนการชั้นศาล ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แต่หากจะมาร่วมงานศพน้องก็ยินดี

ทั้งนี้ ทางพ่อของน้องจูเนียร์ได้ติดต่อเรื่องเอกสารที่นิติเวชเพื่อขอรับร่างลูกชาย จากนั้นจะทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.สายไหม ตามขั้นตอน เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมว่าการเสียชีวิตเป็นผลมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ ก่อนจะไปรับร่างลูกชาย จากนิติเวช ในเวลา 13.00 น. เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

สำหรับกำหนดการงานศพของน้องจูเนียร์ ในวันนี้ จะมีพิธีรดน้ำศพ และจะสวดอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 19-21 มกราคม ก่อนจะฌาปณกิจในวันที่ 22 มกราคมนี้.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที