ก.คลัง 20 ม.ค.-“พิชัย” มอง ผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ ต้องทำงานใกล้ชิดกับคลัง รองรับความท้าทายโลกใหม่ เดินหน้าปรับเงื่อนไข LTF เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีการคัดเลือก ผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ มาแทน ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งกำลังจะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 ก.ย.68 โดยเปิดรับสมัคร มีกระบวนการสรรหาผู้ว่าฯ ธปท. 4 เดือนครบวาระ นายพิชัย มองว่า ต้องเป็นบุคคลทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล มีความคิดเป็นของตัวเองได้ แต่ต้องมีแนวทางหรือนโยบายสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ตามกฎหมายระบุไว้
“เดี๋ยวนี้ คนรู้เศรษฐศาสตร์ ต้องรู้การเงิน …คนรู้การเงิน ต้องรู้เศรษฐศาสตร์ คนมาเป็นผู้ว่าฯ ธปท. ต้องครบเครื่อง ต้องเป็นคนคิดอะไร มองไปข้างหน้า มองแบบเดิมไม่ได้หรอก เพราะปัจจุบัน สถานการเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะตลาดเงินโลกเปลี่ยนไปอย่างมาก สกุลดอลลาร์สหรัฐถูกท้าทาย หยวนเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ผู้ว่าฯ ธปท. ต้องเป็นคนหัวสมัยใหม่ ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่า ฝ่ายรัฐบาลจะฟันธง แล้วเดินหน้าเพียงฝ่ายเดียว” นายพิชัย กล่าวว่า
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนผ่านกองทุน LTF มองว่าที่ผ่านมานักลงทุน ปูเสื่อลงทุนเต็มที่ จะมีผลดีในช่วงขาขึ้น ลงทุนแล้วได้รับลดหย่อนภาษีในช่วงแรก แต่ราคาหน่วยกองทุนไม่ขึ้นในระยะยาว จึงต้องปรับเงื่อนไขใหม่ให้ชัดเจน ดังนั้น จะมีทางเลือกของหน่วยลงทุน ต้องให้มีระยะกลาง ระยะยาว มีโอกาศปรับขึ้น และได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีช่วงแรก เมื่อลงทุนผ่านกองทุนรวม ยอมรับตลาดทุนยุคใหม่ จึงมองไปยังกองทุน Thai ESG นักลงทุน เมื่อไม่มั่นใจในหุ้น หรือตราสาร จะต้องมีช่องทางในการนำเงินไปพักเอาไว้ในการลงทุนสักแห่งหนึ่ง
“วันนี้ตลาดทุน หรือหุ้นตัวไหนไม่ดี ต้องปรับพอร์ตออกไปหาแหล่งลงทุนอื่นทดแทน หรือหาทางปรับปรุงใหม่ คลังต้องเร่งเดินหน้าเรื่องนี้มากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดหุ้นคุณภาพให้มีความน่าสนใจ เช่น นักลงทุนกระเป๋าหนัก ช่วงหุ้นดี จะมาลงทุนในตลาดหุ้นจำนวนมาก หากช่วงไหนราคาหุ้นไม่ดี จะหนีไปลงทุนในหุ้นกู้ พันธบัตร โดยส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักผ่าน Bond” นายพิชัย กล่าว
กระทรวงคลัง ยังเร่งปรับกฎระเบียบการทำงานของ สำนักงาน ก.ล.ต. เพิ่มความรวดเร็วในการทำคดี การเอาผิดคนปั่นหุ้น เข้มข้อกำหนดผู้บริหาร บจ.จำนำทะเบียนหุ้น จนกระทบต่อราคาหุ้นทำให้รายย่อยได้รับผลกระทบ ต้องรายงานข้อมูลให้ชัดเจนอย่างไร นับว่าอีกหลายอย่างต้องเร่งแก้ไข เพราะเดิม รู้ปัญหา แต่จัดการไม่ได้ จึงต้องเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.ให้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที โดยเฉพาะคดีใหญ่ ความเสียหายเยอะ เพราะอำนาจเดิมไม่มี ทำให้สุดท้ายนักลงทุนรายย่อยได้รับความเสียหาย.-515.-สำนักข่าวไทย