ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ 20 ม.ค.- “อ.ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน


ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วันที่ 20 มกราคม 2568 นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พาสาวงามมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ดีเอสไอตรวจสอบการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อคืนความยุติธรรมอย่างโปร่งใส และขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบข้อพิรุธ และเงื่อนงำการเสียชีวิต โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นผู้รับเรื่องและตอบข้อซักถาม

นายณวัฒน์ กล่าวว่า จากหลายสถาบันที่ได้ทำการสำรวจตามโพลได้ผลไม่น้อยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จากทุกการสำรวจเชื่อว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง ในสังคมไทยต้องยอมรับว่าการใช้เส้นสาย การใช้อำนาจ ยศบารมีของข้าราชการ รวมถึงการใช้เงิน เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงยังคงมีปรากฎอยู่เป็นระยะ ซึ่งในกรณีนี้ก็มีเสียงโจษจันมาจากประชาชนว่า อาจจะมีสิทธิ์ในการใช้สิ่งเหล่านี้เข้ามาเป็นเครื่องมือ ด้วยเหตุนี้การเดินทางมาพบในวันนี้ทางตัวแทนมิสแกรนด์ไทยแลนด์ทั้ง 77 จังหวัดพยายามผลักดันให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ช่วยรับเรื่องไว้เพื่อสอบสวนอีกครั้งเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้สังคมไทยนั้นได้ข้อสรุปที่แท้จริง การมายื่นเรื่องร้องขอในครั้งนี้นอกจากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนสำคัญที่สุดคือการมายื่นร้องขอในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความมีมาตรฐานการใช้กฎหมายในประเทศไทย รวมถึงความโปร่งใสในวงการตำรวจเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในปัจจุบันและอนาคตที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทุกคน ที่อยู่ในประเทศไทยได้มั่นใจในการใช้ชีวิต หากว่ากฎหมายมีความยุติธรรมและเท่าเทียมกับทุกคน รวมถึงการลดทอนเส้นสายการคอร์รัปชั่นและ กระทำผิดต่อจรรยาบรรณในกระบวนการยุติธรรมที่อาจเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เรายังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมผ่านกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ สุดท้ายจะเป็นที่พึ่งที่มีมาตรฐานและความยุติธรรมในทุกๆ กรณี หากในกรณีหนึ่งกรณีใดมิชอบมาพากล ผ่านกระบวนการทางอื่น ยังสามารถพึ่งพิงกรมสอบสวนพิเศษในครั้งนี้ได้


นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม วันนี้เรายินดีที่ท่านเดินทางมา เรายินดีรับทุกเรื่องของพี่น้องประชาชนที่จะช่วยได้ ซึ่งเรื่องของท่านก็เป็นส่วนหนึ่ง และเรายินดีที่จะดำเนินการ ซึ่งแม้เรื่องนี้เกิดขึ้น 2 ปีมาแล้ว และกระบวนการกฎหมายได้ไปถึงชั้นศาล มี 2 จำเลยรับสารภาพ ส่วนจำเลยอีก 4 ราย ศาลนัด 29 ม.ค.นี้ ซึ่งตามกระบวนการแล้วท่านยังมีสิทธิ์ร้องเพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดินที่ประชาชนร้องได้ แต่กระบวนการของดีเอสไอที่จะรับเป็นคดีพิเศษนั้น หากเข้าลักษณะเป็นคดีพิเศษ จะมีคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าเรื่องใดเป็นเรื่องที่ดีเอสไอควรรับเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ ยืนยันว่ากระบวนการของดีเอสไอ อยู่ระหว่างดำเนินการในคดีอาญา มันไม่สามารถที่จะทำไปแถลงไปได้

นายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับขั้นตอนการรับคดีมี 3 ขั้นตอน คือ 1.รวบรวมข้อเท็จจริง และเมื่อเห็นว่ามีความไปได้ก็จะมีการสรุปข้อมูลเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวน 2.การสืบสวนคดี พนักงานผู้รับผิดชอบจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นในการแสวงหารวบรวมพยานหลักฐานเป็นเรื่องสืบสวน โดยต้องมีหลักฐานชัดเจน เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการการรับเป็นคดีพิเศษ และ 3.การรับเป็นคดีพิเศษ จะเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าองค์ประกอบเข้ากฎหมาย ก็สามารถรับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษได้โดยอำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ถ้าเป็นคดีที่ไม่เข้าลักษณะคดีพิเศษ ก็เสนอคณะกรรมการคดีพิเศษได้ แต่คดีนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมข้อเท็จจริงเท่านั้น เพราะในคดีอาญานั้น การกล่าวถึงบุคคลใดอาจเป็นการละเมิดสิทธิ์ได้

นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ความมั่นใจว่าทุกคำพูดของท่าน จะส่งถึง รมว.ยุติธรรม ไม่ตกแม้แต่ประโยคเดียว และในการดำเนินการนั้น อาจเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือใดๆ ก็ตาม ตนในฐานะที่ปรึกษา รมว.ยธ. จะมีส่วนเร่งรัดทำให้เร็วที่สุด รับปากได้เลยว่าจะไม่ล่าช้า จะทำตามขั้นตอน ขอให้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องระยะเวลา หรือภายใน 1 เดือนก็สามารถมาทวงถามได้ นอกจากนี้ ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ขอให้ท่านรวบรวมพยานกี่รายก็ตาม หรือรูปภาพต่าง ๆ ให้เอาเข้ามามอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ได้เลย


ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เข้าใจความประสงค์ที่ต้องการให้ดีเอสไอดำเนินการทำความจริงให้ปรากฏว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องราวนั้นๆ เรายังไม่ทราบ จึงขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ดังนั้น จะทำการใดก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เพราะเรามี 3 ขั้นตอน คือ การตรวจสอบรวบรวมข้อมูล การสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐาน และสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตอนนี้เป็นเพียงแค่ชั้นแรก ต้องรวบรวมข้อมูลจนกว่าจะชัดเจนว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง อีกทั้งในส่วนของการรื้อฟื้นคดี จะทำได้หรือไม่นั้น ต้องนำมาพิจารณาก่อนว่ากฎหมายเปิดช่องให้จำเลย หรือแพะ หรือผู้ร้องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจจะมีการเบิกความเท็จ การนำพยานหลักฐานเท็จเข้ามาหรือไม่ อย่างไร และยังมีเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ซึ่งต้องเกิดขึ้นก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ต้องมีขั้นตอนว่าจำเลยเสียเปรียบหรือไม่ จึงต้องย้ำว่าในชั้นนี้กฎหมายเปิดช่องให้เราทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้เข้าใจว่าเจ้าพนักงานจะทำการใด ก็ต้องดูกฎหมายว่าเปิดช่องให้ทำหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการประชุมก่อนเพื่อดูว่าดีเอสไอสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง และจะเเจ้งผลความคืบหน้าให้ทราบแน่นอน

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ขอให้ไม่ต้องกังวล ดีเอสไอถูกออกแบบมาให้พิจารณาดำเนินคดีบุคคลที่เป็นข้าราชการอยู่แล้ว อย่างที่เรียนว่าจะดำเนินการสิ่งใด กฎหมายก็ต้องให้อำนาจ ถ้ากฎหมายให้อำนาจเราก็ทำเต็มที่ แต่ถ้าทำโดยไม่มีอำนาจ เราก็จะมีความผิดเสียเอง ตอนนี้จึงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงและประมวลเรื่อง ทั้งนี้ ยินดีดำเนินการให้ความเป็นธรรมในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาจไม่ถึงปี ประมาณ 3-6 เดือนก็ได้ทราบความคืบหน้า

ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เบื้องต้นกระบวนการของเราจะเน้นไปที่นิติวิทยาศาสตร์ การรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะเรามีมาตรการพิเศษ ในการรวบรวมเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่วันนี้คือจุดเริ่มต้น เนื่องจากเราได้ไปสังเกตการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูว่าจะมีอำนาจในการดำเนินการในส่วนใดได้บ้าง

ส่วน นายปานเทพ กล่าวว่า การที่มี MISS GRAND จาก 77 จังหวัด คือ ตัวแทนของผู้หญิงทั่วประเทศ เมื่อพวกเขารู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คนเหล่านี้จึงมาทวงความยุติธรรม แต่ตอนนี้เราห่วงเรื่องเวลา กังวลในส่วนของข้อเท็จจริงบางประการ เช่น พยานหลักฐานต่าง ๆ จะถูกทำลายไปก่อนหรือไม่ และเมื่อใดจะเเล้วเสร็จ จะรวบรวมเสร็จ สอบสวนเสร็จ แล้วเมื่อใดจะนำไปสู่เลขคดีพิเศษ ยังไม่นับรวมชี้มูลผิดหรือไม่ผิด แต่หลายท่านในกรมสอบสวนคดีพิเศษในตอนนี้เป็นตำรวจเก่ามาก่อน สิ่งที่เรากังวลคือกระบวนการที่จะต้องดำเนินการเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจ ถ้ารับเรื่องไปเฉย ๆ แล้วไม่กำหนดเวลา แล้วไม่สามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้ พลังผู้หญิงที่มาในวันนี้คงจะผิดหวัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกกี่ครั้ง ขอให้ดีเอสไอรับปากว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางบอสณวัฒน์ ได้มีการเปิดรูปภาพของแตงโมที่มีลักษณะถูกไพล่หลังให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดู โดยย้ำว่าเป็นภาพเหมือนแตงโมถูกมัดมือไพล่หลัง และเเย้มว่า ยังมีอีกหลายรูปที่มีร่องรอยฟกช้ำดำเขียว ประมาณ 20 ภาพ ขอให้ดีเอสไอรับไปดูด้วย

ต่อมาเวลา 17.35 น. พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมารับเรื่องด้วยตัวเองพร้อมเปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมมีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ดูแลในเรื่องที่สลับซับซ้อนในคดีอาญาแต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมาย คดีนี้มีส่วนหนึ่งอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ตำรวจสอบสวน และอยู่ในการพิจารณาคดีของศาล โดยหลักการถ้าจะสอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่มีพระราชบัญญัติรื้อฟื้นคดีอาญาซึ่งต้องเป็นคดีเด็ดขาด ส่วนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหากมีประเด็นที่สำคัญจะอยู่ในอำนาจของอัยการ หากเป็นเรื่องมีการกล่าวหาหรือมีการยืนยันตัวบุคคลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนเลย หรือมีการกล่าวหาขึ้นมาใหม่จะมีอำนาจสอบสวนได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และทราบว่ากระบวนการยุติธรรมทั้งศาลและอัยการได้ดำเนินการอยู่

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า หน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในขณะนี้คือการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนตามที่ได้มีการมาร้องเรียน หากมีความจำเป็นจะตั้งเลขสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน เมื่อมีการตั้งเรื่องสืบสวนและพบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นจะตั้งเป็นสอบสวนและมีการสอบสวน

พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในประเด็นดังกล่าวในคดีที่มีคนตาย จะมีอยู่หลักอยู่ 3 หลัก คือ 1.หลักเทคนิคการสืบสวนสอบสวน ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้รวบรวมหลักฐาน 2. การตรวจพิสูจน์ และ3.ต้องชอบด้วยกฎหมาย ในเคสลักษณะนี้หากดีเอสไอจะทำการตรวจสอบจะให้ผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นบัญชีไว้กับศาล ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแพทย์นิติเวช หน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ หลังจากรับเรื่องได้ส่งมาให้ดีเอสไอตรวจสอบเนื่องจากมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ ในกระบวนการทั้งหมดจะต้องให้อยู่ในพยานหลักฐาน ทั้ง พยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ แต่ในกฎหมายไทยมีพยานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันจะทำด้วยความรวดเร็ว โดยยึดหลักการสอบสวนจะอยู่ที่พยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ไม่มีอคติ หากไปถึงบุคคลใดก็ให้ว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ทุกเรื่องในประเด็นความยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม ทุกเรื่องจะทำและอำนวยความยุติธรรมโดยให้ทำอย่างตรงไปตรงมา .419 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย