“ภูมิธรรม” ดีเดย์ 30 ม.ค. ปราบปรามยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์

ทำเนียบ 20 ม.ค.-“ภูมิธรรม” เผย 30 ม.ค.นี้ ดีเดย์ปราบปรามยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ รัฐบาลเอาจริง ขีดเส้น 6 เดือนหากไม่ดีขึ้นไต่ระดับเข้มข้นอีก พร้อมซีลชายแดน 2 ชั้น บอกหากเจ้าหน้าที่คนใดคิดว่างานนี้ไม่เหมาะสมให้สมัครใจย้ายได้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศบนเวทีช่วยหาเสียงนายกอบจ.พรรคเพื่อไทยในภาคอีสานว่าจะเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามปัญหาคอลเซ็นเตอร์และปัญหายาเสพติดในระยะเวลา 1 ปี ว่า เรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนเองจัดการปัญหาเรื่องยาเสพติด ขณะนี้ทางรัฐบาลก็เอาจริงเอาจังอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งแรกที่กำลังดำเนินการอยู่คือการป้องกันจากต้นทางให้ไม่สามารถเข้าประเทศไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีการประชุมร่วมกันกับทุกหน่วยงาน และวันที่ 30 ม.ค.นี้จะเป็นวันดีเดย์ที่จะมีการประชุมร่วมกันกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานป้องกันป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง. ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะขณะนี้การป้องกันชายแดนเป็นเรื่องที่ลำบาก ซึ่งจุดที่ยาเสพติดเข้ามาตรงด่านตรวจเราก็ป้องกันได้พอสมควร อีกทั้งทางการข่าวได้มีการปรับปรุงการทำงานในการสร้างการรับรู้ การตรวจสอบ และใช้เครื่องมือเข้าไปช่วยมากขึ้น


ซึ่งวันที่ 30 ม.ค.นี้จะแถลงอย่างเป็นทางการ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจจะมาชี้แจงพร้อมกัน ทั้งนี้หากใน 6 เดือนไม่เห็นผลก็จะมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในการดำเนินการให้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หลังจากการที่ตนลงพื้นที่แม่น้ำโขงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็จะเห็นว่ามีช่องทางธรรมชาติที่มากมาย และตลอดแนวชายแดนไทย 240 กว่ากิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยาวมาก อีกทั้งของที่เข้ามาตามแนวชายแดนไม่ใช่แค่ยาเสพติดเพียงอย่างเดียว ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้เป็นการป้องกันชายแดนเป็น 2 ชั้นจากเดิมที่ให้ฝ่ายกิจการทหารชายแดนดูแลนั้น ยอมรับว่าไม่ทั่วถึง เพราะใช้วิธีลาดตระเวนและใช้การข่าว แต่เนื่องจากมีช่องทางธรรมชาติมาก จึงป้องกันให้มีชั้นที่เข้มข้นขึ้นทั้ง 14 จังหวัด 51 อำเภอใน 76 สถานีตำรวจ ทั้งแนวตะวันออกและตะวันตก ซึ่งคิดว่าจะเป็นมาตรการที่ให้ผลดีมากขึ้น และต้องขอระยะเวลาในการประเมิน 6 เดือน


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หากเจ้าหน้าที่ท่านใดรู้สึกว่าการทำงานนี้ไม่เหมาะสมก็จะให้สิทธิสมัครใจย้ายได้ แต่ไม่ใช่เป็นการย้ายไปในที่ๆ ดีขึ้น แต่เป็นการย้ายเพราะทำงานสำคัญไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะนายอำเภอ และผู้กำกับที่ต้องดูแลในจุดที่เล็กลงไปให้ได้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การทำงานในพื้นที่ชายแดนเกี่ยวข้องทั้งกับปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งการป้องกันในครั้งนี้เป็นเส้นทางเดียวกัน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องความมั่นคงที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งเราจะดำเนินการอย่างเข้มข้นและจริงจัง

ส่วนปัญหาเพื่อนบ้านลักลอบเข้าเมืองที่ล่าสุดมีชาวอินโดนีเซียลักลอบเข้าประเทศไทย 32 คนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า จาก 32 คน เท่าที่เช็คแล้วมีทั้งหมด 12 คน แบ่งเป็นเดินทางผ่านด่านตม.สุวรรณภูมิไปยังจังหวัดตาก 8 คน และ 4 คนไม่ทราบ แต่ว่าทุกคนได้แสดงวีซ่าและอ้างว่ามาท่องเที่ยว ส่วนอีก 20 คนก็ยังไม่ทราบจุดประสงค์ กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งในส่วนของ 20 คนที่ยังไม่ทราบ มีทางเข้าออกด่านหลายทางทั้งบินตรงจากย่างกุ้ง และจากจีนโดยตรงและเมียวดี ซึ่งตรงนี้ก็จะสอบสวนกันอีกครั้งหนึ่ง.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

“พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลประชุม GBC สมัยพิเศษ

เกาะกง 10 ก.ย. – “พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลหารือ GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง มุ่งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนี้จะมีการดำเนินการถอนอาวุธหนักภายใน 4 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการไอโอที ร่วมสังเกตการณ์ด้วย และเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 1 สัปดาห์ ต้องแล้วเสร็จใน 1 เดือน ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย