บช.สอท. 17 ม.ค.-ผู้การไซเบอร์ ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติจับกุมแอดมินตัดต่อภาพอดีตนายกฯ “ทักษิณ” เร่งตรวจสอบหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอก “แพทองธาร” ส่วนประเด็นค่ายโทรศัพท์มือถือติดตั้งแอปเงินกู้ อยู่ระหว่างประสานความชัดเจนเรื่องการส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้ สคบ.หรือไซเบอร์
พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมแอดมินเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งมีการเผยแพร่ภาพตัดต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายคน ว่า การจับกุม แอดมินเพจเฟซบุ๊ก ที่มีการตัดต่อภาพแปะข้อความลักษณะดูหมิ่นนายทักษิณ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ทนายความของนายทักษิณ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุคนนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากสร้างความเสียหายทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ยืนยันไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ จับกุมแต่ผู้ที่หลอกลวงหรือมีพฤติกรรมดูหมิ่นบุคคลที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ อยู่แล้ว ส่วนจะมีการขยายผลไปถึงกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่มีการกระทำลักษณะนี้หรือไม่ ประเด็นนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้เสียหายว่าประสงค์จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มหรือไม่
สำหรับกรณีที่นางสาวแพทองธาร ถูกขบวนการคอลเซนเตอร์โทรศัพท์ใช้เสียงเลียนแบบ ผู้นำประเทศอื่นหลอกให้โอนเงินช่วยเหลือ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ากลุ่มคอลเซนเตอร์ ที่โทรศัพท์มาหลอกนั้นเป็นบุคคลกลุ่มใด แต่เชื่อว่าเป็นกลุ่มคอลเซนเตอร์ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันพบมีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะนี้ ถึงกว่า 16,000 คดี
ส่วนประเด็นค่ายโทรศัพท์มือถือ ออปโป และเรียลมี ที่ประสานส่งข้อมูลส่วนบุคคล ให้ตำรวจไซเบอร์ ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าค่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ค่ายจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับตำรวจไซเบอร์ หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. สำหรับผู้เสียหายที่มีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีมี สคบ. และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. ดูแลรับผิดชอบอยู่ โดยหากตรวจสอบแล้ว พบว่าเข้าข่ายความผิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์ ก็จะเข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง.-419.-สำนักข่าวไทย