ทำเนียบ 17 ม.ค.-“ภูมิธรรม” สวน “กัณวีร์” รู้ได้อย่างไร วง สมช. ถกผลักดันอุยกูร์กลับจีน พร้อมยอมรับคุยเรื่องข้อกฎหมาย เพื่อความรอบคอบ ลั่นต้องไม่กระทบไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ทั่วไปของภูมิภาค ซึ่งเป็นวาระปกติที่ต้องรายงานตลอด เนื่องจากสภาพสถานการณ์ทางการเมือง และสถานการณ์ต่างๆทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเราต้องเร่งดำเนินการปรับตัวเองในวิธีการทำงาน ให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันมีการหารือถึงสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากที่เคยได้มอบหมายให้ สมช.ไปดำเนินการหาข้อสรุป โดยตนได้มอบพลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ อดีตเลขา สมช. ในฐานะที่ปรึกษา ร่วมพูดคุยด้วย ก็ได้ข้อสรุปมารายงานต่อที่ประชุมให้ทราบ ซึ่งมีข้อสังเกตมากพอสมควร พร้อมย้ำว่า ต้องมีการทบทวนให้รู้ทั้งตัวเราเอง และสถานการณ์ภายนอก ซึ่ง สมช.จะต้องสรุปผลจากการหารือทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยต่างๆ สรุปให้เกิดความชัดเจนเพื่อกลับเข้าสู่ที่ประชุมในครั้งถัดไป
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับชายแดนไทย โดยเฉพาะเรื่องชนกลุ่มน้อย ซึ่งภายในประเทศเขามีเรื่องต่างๆเกิดขึ้น แต่เราจะดำเนินการเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยเท่านั้น โดยมีการเสนอโครงสร้างแผนการดำเนินการเข้ามาให้ที่ประชุมได้พิจารณา ซึ่งต้องระมัดระวังไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของเขา ทั้งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหรือแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งเราเป็นประเทศที่อยู่ติดกับเมียนมามากที่สุดจึงต้องระมัดระวังท่าที และช่วยอำนวยให้ประเทศต่างๆได้พูดคุยกับเมียนมาด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆให้เกิดความชัดเจน ซึ่งได้มีการอนุมัติลงมติเห็นชอบกับแนวทางที่ปฏิบัติที่จะยืนอยู่ในจุดที่เป็นฝ่ายเอื้ออำนวยในการพูดคุยกันเพื่อให้เกิดความสงบ และเกิดแนวทางสู่ประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุด
นายภูมิธรรม ย้ำด้วยว่า เราต้องคำนึงถึงชายแดนไทยเมียนมาที่ยังมีปัญหาหลายจุดในเรื่องภัยความมั่นคง ทั้งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ ตนได้กำชับว่าต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ คือสนับสนุนให้เมียนมาเป็นประเทศที่มีความสงบสุขเกิดประชาธิปไตยให้เป็นที่ยอมรับ โดยเราเป็นฝ่ายเอื้ออำนวยให้เกิดการประชุมกัน และให้มีการหารือให้มีแนวทางที่ชัดเจนในการปกป้องอธิปไตยบนพื้นที่ของเรา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะเป็นภัยพิบัติต่อความมั่นคง
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้เป็นรูปธรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่กำลังคุยกันอยู่ ซึ่งเมื่อเรามาอยู่ร่วมกันแล้วมีการเปลี่ยนแปลงมามากพอสมควรแล้ว เราก็รู้สึกว่าอยากทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสรุปเรื่องราวต่างๆ ให้ชัดเจน
เมื่อถามว่า นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คถึงการประชุมสภาความมั่นคงฯในวันนี้ว่าจะมีเรื่องการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนด้วย นายภูมิธรรม ย้อนถามกลับว่า “คุณกัณวีร์รู้ว่าเราจะประชุมเรื่องนี้กันได้อย่างไร” ก่อนกล่าวยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา มีการแสดงท่าทีของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ และมีการเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในที่ประชุม แต่ก็ควรจะดูเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ว่าควรจะทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย และไม่ให้เกิดปัญหากับประเทศไทย และนานาประเทศ พร้อมกับมอบหมายให้ไปดูว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจะดำเนินการอย่างไร แต่ยอมรับว่าในอดีตเคยมีการผลักดันออกนอกประเทศ แต่ในระยะอันใกล้นี้ยังไม่มี พร้อมกับปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าจะมีการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศในวันที่ 20 มกราคมนี้.-315.-สำนักข่าวไทย