ฉะเชิงเทรา 13 ม.ค. – กรมชลประทานใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ 5 แห่ง ระบายเพื่อป้องกันความเค็มรุกแม่น้ำบางปะกง บรรเทาความเดือดร้อนชาวแปดริ้วและปราจีนบุรี ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงและตลอดฤดูแล้งนี้ แต่หากไม่สามารถควบคุมในจุดควบคุมบริเวณวัดบางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จะแจ้งเตือนเกษตรกรและหน่วยงานท้องถิ่น สร้างทำนบชั่วคราวเพื่อกักน้ำและกันน้ำเค็มจากแม่น้ำปราจีนบุรีเข้าพื้นที่
กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 9 ได้เฝ้าระวังค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกงพบ ว่าค่าความเค็มรุกตัวเร็วกว่าปกติ โดยค่าความเค็ม 1 กรัมต่อลิตร รุกตัวถึงจุดเฝ้าระวังบริเวณโครงการชลประทานฉะเชิงเทรา อ.บ้านโพธิ์ (ระยะทาง 35 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำ) ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ปี 2567 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงครึ่งเดือน จึงได้ปรับแผนตามความเหมาะสมของสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการควบคุมเขื่อนบางปะกง ตามแผนที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการลุ่มบางปะกงแล้ว
ที่ผ่านมาใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง ทางตอนบนระบายน้ำลงมาไล่ความเค็ม ดังนี้
-อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา ตั้งแต่วันที่ 1 – 15 ธ.ค. 67 ในอัตราวันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.)
-อ่างเก็บน้ำคลองสียัดและอ่างเก็บน้ำคลองระบม ตั้งแต่วันที่ 5 – 19 ธ.ค. 67 ในอัตราวันละ 2 ล้าน ลบ.ม.
-อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 67 – 13 ม.ค. 68 ในอัตราวันละ 1 ล้าน ลบ.ม.
ผลการบริหารจัดการ สามารถควบคุมค่าความเค็มในบริเวณจุดควบคุมต่างๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด ได้แก่ จุดควบคุมที่ 1 เขื่อนบางปะกง (ระยะทาง 66 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำ) สามารถชะลอความเค็มให้รุกตัวช้าลง ซึ่งจุดนี้มีบางช่วงเวลาที่ค่าความเค็มต่ำกว่า 1 กรัมต่อลิตร ทำให้พื้นที่เหนือน้ำสามารถรับน้ำเข้าพื้นที่ได้ตามการขึ้นลงของน้ำทะเล จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67
ส่วนจุดควบคุมที่ 2 บริเวณปลายคลองบางขนาก (ระยะทาง 109 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำ) สามารถควบคุมค่าความเค็มไม่ให้รุกตัวถึงจุดนี้ก่อนวันที่ 10 ม.ค. 68 ทำให้พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวบริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกงในเขตอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอคลองเขื่อน และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถใช้น้ำเพาะปลูกได้โดยไม่ได้รับผลกระทบ
ในระยะนี้ เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงได้ปรับแผนควบคุมค่าความเค็มในจุดควบคุมที่ 3 บริเวณวัดบางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี (ระยะทาง 115 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำ) โดยเพิ่มการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดามาตั้งแต่วันที่ 5-9 ม.ค. 68 เป็น 1.5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน (เดิมระบาย 0.6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน) คาดว่า จะช่วยป้องกันความเค็มรุกได้จนถึงในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด โดยจะควบคุมต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ก.พ.68
ค่าความเค็มสูงสุดวันนี้ (13 ม.ค. 68) วัดได้ 0.8 กรัมต่อลิตร (ควบคุมไม่ให้เกิน 1 กรัมต่อลิตร) และมีแนวโน้มสูงขึ้นตามช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันที่ 13-15 ม.ค. 68 (ตามคาดการณ์ของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ) แต่หากจุดควบคุมที่ 3 ไม่สามารถควบคุมความเค็มได้จนถึงวันที่ 1 ก.พ. 68 ได้วางแผนสำรองให้โครงการชลประทานปราจีนบุรี แจ้งเตือนเกษตรกรและหน่วยงานท้องถิ่น สร้างทำนบชั่วคราวเพื่อกักน้ำและกันน้ำเค็มจากแม่น้ำปราจีนบุรีเข้าพื้นที่ต่อไป. -512 – สำนักข่าวไทย