ญาติร่ำไห้ “เหยื่อลูกเรือไทย” กระโดดหนีกระสุนจากเรือเมียนมา ลงน้ำดับ

พังงา 2 ธ.ค. – ญาติตั้งศพหนุ่มช่างเครื่องเรือวัย 24 ปี บำเพ็ญกุศล ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า หลังกระโดดน้ำหนีขณะเรือประมงของไทยถูกเรือทหารของเมียนมาไล่ยิง ด้านนายกฯ เผย กต. เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาพบวันนี้ (2 ธ.ค.)

กรณีช่วยเหลือลูกเรือชาวประมงชาวไทยที่ถูกทหารเรือเมียนมาควบคุมตัวไปพร้อมเรือประมงไทย 1 ลำ ซึ่งเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต // 1 ในนั้นเป็นชาวพังงา ญาติสุดเศร้าร่ำไห้รับศพ

นายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ปลัดอาวุโสอำเภอตะกั่วป่า นายปณิธาน แก้วหมุน ปลัดอำเภอปล่อยความมั่นคง และนายมนัสศักดิ์ ยวนแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.บางม่วง ลงพื้นที่ซอยองค์การ บ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายวรากร อายุ 24 ปี ช่างเครื่องเรือดวงทวีผล 99 หลังถูกเรือทหารเมียนมาไล่ยิงขณะไปหาปลาบริเวณน่านน้ำสากล รอยต่อระหว่าง จ.ระนอง และประเทศเมียนมา ต้องกระโดดน้ำหนีจนเสียชีวิต โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ย่าหวี ย่าของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า สงสารหลาน คิดถึงหลานมากๆ หลานเป็นเด็กดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่ชอบลงเรือไปจับปลา ชอบอยู่บนฝั่งมากกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลงเรือ เนื่องจากพ่อเขาอยากให้ลูกได้เรียนรู้การทำงานบนเรือ เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าทางทหารเมียนมาโหดร้ายมาก ไม่มีการแจ้งเตือนแต่อย่างใด ยิงอย่างเดียว ยอมรับว่าเรารุกล้ำน่านน้ำเขาจริง เนื่องจากพื้นที่แบ่งแนวเขตยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ควรยิงแบบนี้ หลานตนกระโดดลงน้ำช่วงเกิดเหตุ แม้จะใส่ชูชีพแต่คลื่นแรง ประกอบกับขึ้นเรือไม่ทันจึงจมน้ำเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทหารเมียนมาจับกุมเรือประมงไทย พร้อมลูกเรืออีก 31 คน ขณะนี้ทางการไทยเร่งติดต่อประสานกับทางการเมียนมา เพื่อขอนำตัวกลับอย่างเร่งด่วน ล่าสุดพบว่าเรือประมงลำดังกล่าวถูกลากไปไว้ที่เกาะสอง ตรงข้ามกับ จ.ระนอง ของไทย

นายกฯ เผย กต.เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาพบวันนี้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เรือประมงของไทย พร้อมลูกเรือที่ถูกเรือของเมียนมาจับกุมและลากเข้าฝั่งเมียนมา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทัพเรือ และกระทรวงการต่างประเทศ เร่งประสานกับฝ่ายเมียนมาเพื่อช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน

ล่าสุดได้รับแจ้งว่ามีการดำเนินการประสานกับฝ่ายเมียนมาแล้วผ่านช่องทางทหารและการทูต และจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนั้นได้รับทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย มาพบในวันนี้ (2 ธ.ค.) เพื่อรับทราบข้อกังวลอย่างเป็นทางการด้วยแล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงขอแสดงความห่วงใยต่อลูกเรือประมงที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าวทุกคน หน่วยงานของไทยกำลังดำเนินการประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับการดูแลและมีการส่งกลับภูมิลำเนาโดยเร็วที่สุด

จากการที่ได้รับรายงานล่าสุดบาดเจ็บ 2 คน เสียชีวิต 1 คน และถูกจับตัวอยู่ตอนนี้อีก 4 คน ซึ่งจริงๆ มี 30 กว่าคน แต่เป็นคนไทย 4 คน และยังไม่ได้สรุปออกมาชัดเจนว่ารุกล้ำหรือไม่

ส่วนทางเมียนมาทำเกินกว่าเหตุหรือไม่มี นายกฯ กล่าวว่า เราไม่สนับสนุนความรุนแรงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเหตุการณ์ใดก็ตาม เรามีจุดยืนนี้ไปทั่วโลกไม่สนับสนุนความรุนแรง ขอดูรายละเอียดอีกทีว่าเป็นอย่างไร

ด้านนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้รายงาน โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ได้ประท้วงไปแล้วว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง โดยให้ไต่สวนตรงนี้ชัดเจน และขอให้เอาเรือและคนไทยที่ถูกจับกุมไว้กลับมา ขณะนี้กำลังพยายามเจรจา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ประสานงาน

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือแสดงความกังวลเรื่องนี้ด้วย และวันนี้ (2 ธ.ค.) จะเชิญทูตเมียนมา มาที่กระทรวง และจะย้ำขอให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง และปล่อยตัว 4 คนไทยที่ถูกควบคุมตัว สิ่งที่จะคุยกับท่านทูตเป็นการย้ำว่าเขาต้องรับผิดชอบ มองว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ เพราะการจะบอกว่ารุกล้ำมันมีขั้นตอนอยู่

ทัพเรือภาค 3 จัดเรือลาดตระเวนน่านน้ำไทย
พล.ร.อ.พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า สามารถช่วยเหลือเรือประมงทั้งหมดจำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือ 29 คน (เสียชีวิต 1 คน) และเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีลูกเรือ 33 คน (บาดเจ็บ 2 คน)

ทั้งนี้ ทราบว่าเรือรบเมียนมาจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำจริง อ้างว่ามีกลุ่มเรือประมงประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา และจากการตรวจสอบพบว่าเรือประมงทั้ง 15 ลำ เป็นเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่เข้ามาหากินทำการประมงในเขตน่านน้ำของ จ.ระนอง ซึ่งอาจไม่ชำนาญพื้นที่บริเวณดังกล่าว ทัพเรือภาคที่ 3 ยังคงจัดกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ และยืนยันการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชาวประมงที่ทำกินโดยสุจริต.-สำนักข่าวไทย