รัฐสภา 22 พ.ย.- “ทวี” แจงยิบหลัง กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ จี้ปม ”ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ชี้แยกขังเดี่ยวอ้างเคยถูกปองร้ายคาร์บอมบ์ โวย “โรม” หันเอกสารรักษาตัวหาสื่อฯ ย้ำเป็นเอกสารลับ ซัดกรรมาธิการเลือกบางถ้อยคำด้อยค่ากรมราชทัณฑ์-ก.ยุติธรรม ทำก้าวขาเสี่ยงคุก ถูกคนร้อง ป.ป.ช. ยันทำตามกฎหมายทุกอย่าง หากไม่ถูกใจให้ไปแก้กฎหมาย ขณะ “ประยุทธ์” เดือดแทน ไล่ไปใช้บริการ “ทวี” ติดคุกเหมือน “ทักษิณ”
การประชุมกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และสภาผู้แทนราษฎร มีนายรังสิมันต์ โรม ประธานกมธ. เป็นประธานการประชุมพิจารณา กรณีที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่ชั้น14 โรงพยาบาล
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ ว่า นายทักษิณ ได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ก่อนที่ตนจะเป็นรัฐมนตรี จึงต้องให้ความเป็นธรรม แต่เหตุที่ตนต้องมาชี้แจง เหมือนกรรมาธิการชุดนี้ ไปด้อยค่ากรมราชทัณฑ์ ไม่ให้เขาได้มีโอกาสชี้แจง และเลือกถ้อยคำบางประเด็น ตนยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งมีการแบ่งเกรดของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามการใช้ศักยภาพ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยที่ต้องรักษา ซึ่งมีการระบุชัดว่าโรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นสถานที่คุมขัง ซึ่งหากประชาชน รับไม่ได้ก็ต้องไปแก้ที่กฎหมาย
ด้านกรรมาธิการฯจากพรรคประชาชน ได้ สอบถามถึงการส่งตัวผู้ถูกคุมขังไปยังโรงพยาบาลนอกเรือนจำ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ควบคุม 2 คนตามกฎระเบียบไว้หรือไม่ รวมไปถึงมีการจัดห้องแยกให้กับผู้ต้องขังหรือไม่ และมีการจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างนี้ พันตำรวจเอกทวี ได้บอกประธานกรรมาธิการ ให้ระวังเอกสารลับเรื่องของการรักษาตัวเนื่องจากมีสื่อมวลชนกำลังบันทึกภาพอยู่ และถามย้ำกับช่างภาพว่า ถ่ายภาพติดหรือไม่ เนื่องจากกังวลเรื่องสิทธิ ก่อนที่จะชี้แจงต่อว่า ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้จัดเจ้าหน้าที่ควบคุม ยืนยันว่าไม่ใช่ห้องพิเศษ และนายทักษิณ เคยถูกปองร้ายเคยโดนคาร์บอม ตนเห็นสส. 100 คน มีบทบาทอย่างนี้ได้อย่างไร เมื่อเรียกร้องให้เขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การดำเนินการใช้ห้องควบคุมพิเศษ ก็เป็นดุลยพินิจของผบ. ตร โรงพยาบาลตำรวจและการเข้าเยี่ยมก็มีรายการการเข้าเยี่ยมทั้งหมด การเอาสิ่งเหล่านี้มาพูดทำร้ายกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรม มีคนนำคำพูดไปยื่นต่อ ปปช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีการสอบอย่างละเอียด พร้อมยืนยันว่า กรรมาธิการไม่ใช่การสอบสวนในทางการเมือง เราต้องไปข้างหน้า อย่ามาด้วยค่ากัน แต่ตนมีหลักฐานยืนยันตามระเบียบทั้งหมด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณที่ถูกมองว่าไม่ได้อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่น ว่าการพักรักษาตัวของผู้ต้องขัง เดี๋ยวนี้ไม่ได้เอาไปอยู่รวมกัน สามารถดูได้ตามโรงพยาบาลต่างๆ และยืนยันว่าข้าราชการกระทรวงยุติธรรมไม่มีสิทธิ์ใช้ดุลยพินิจต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่างตามพ.ร.บ.ราชฑัณฑ์ ปี2566 และเจ้าหน้าที่คุมขัง ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการอยู่ราชทัณฑ์ ต้องมีการเข้าออกตามเวลา เท่าที่รู้ กรรมการผู้ตรวจการแผ่นดินก็เข้าไปดูว่าป่วยจริงไม่ เช่นนั้นรายงานจะออกมาว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ยุติ พอเรื่องนั้นเรื่องนี้เกิดเหตุก็ไปตีข่าวกันมาก ข้าราชการทำงานกันอยู่ เราไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่เราทำตามกฎหมายและระเบียบที่ให้ไว้
“การใช้ดุลยพินิจกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ตนยืนยันว่า คนที่เข้าเรือนจำต้องควบคุม ห้องที่นายทักษิณไปอยู่คือห้องควบคุมพิเศษ ในความหมายของตน ส่วนป้ายที่เขียนว่า ตึกนี้ชั้นนี้ เป็นพรีเมี่ยม ตนไม่ทราบ เพราะเป็นที่รักษาคนทั่วไป ญาติพี่น้องตำรวจคนเดียวใครก็ได้เข้าไปรักษา คนทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน คนทั่วไปก็อยู่ได้อย่างนางอองซาน ซูจี ยังถูกกักขังที่บ้าน ประเด็นตรงนี้เราต้องควบคุม ในลักษณะที่ยังต้องราชทัณฑ์อยู่ เพื่อไม่ให้เกิดการหลบหนี ไปก่อเหตุร้าย” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนผู้ที่ไปเยี่ยมยังตำหนิกรมราชทัณฑ์ ว่า เปิดให้เยี่ยมน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วใครก็ได้ ที่ต้องการจะให้เยี่ยมเพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่กรมราชทัณฑ์ก็กำหนดเอาไว้ และผู้ที่เข้าไปเยี่ยมทั้งหมด ทั้งคนที่อ้างว่าไปเข้าพบมา ขอตรวจสอบได้เพราะเรายืนยันว่ามีรายชื่อทั้งหมด ส่วนหากจะไปทางหนีไฟหรือไม่ ตนก็ไม่รู้ ยืนยันข้าราชการรักษาศักดิ์ศรี และไม่ทำอะไร ที่จะต้องมาโดนเช่นนี้ หากจะดูรายชื่อก็สามารถดูได้แต่ตนขอยืนยันว่าห้องนี้เป็นห้องควบคุมพิเศษและห้องรักษา และตนก็ไม่เคยเดินทางไปพบนายทักษิณขณะที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ส่วนที่กรรมาธิการฯ สงสัยคณะกรรมการที่ช่วยนายทักษิณเป็นการใช้อำนาจโดยชอบหรือไม่เป็นการช่วยเหลือ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรีเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นแพทย์ได้ให้ความเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุทั้งหมดและเหลือโทษไม่มากการให้คะแนนจึงเป็น 9 คะแนน ซึ่งหมอวินิจฉัยโรคดีกว่าตน ว่าเข้าหลักเกณฑ์ทั้งหมดมีโรคหลายโรคและไม่มีผู้อื่นเห็นแย้ง รวมถึงผู้แทนอัยการสูงสุดที่ระบุว่าการพิจารณาเข้าหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุและการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจถือเป็นการจำคุก ถือเป็นส่วนหนึ่งของเรือนจำ และมีผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)
“ผมคิดว่า ชอบให้หมอวินิจฉัยมากกว่าเพราะถ้าเป็น ผมเป็นคนให้ยาท่านประธานคงไม่เอาเหมือนกัน จึงขอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่เอกสารส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
สำหรับเรื่องการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่นั้น พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่าได้ให้รองปลัดกระทรวงยุติธรรมไปตรวจสอบและทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้ตรวจสอบกรณีนี้ แล้วไม่มีอะไรผิดกฎหมาย และยุติเรื่องไปแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าการพิจารณาการพักโทษของแต่ละคนจะพิจารณากันหนักมาก
ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิช ขอใช้สิทธิ์แสดงความคิดเห็นว่าคำถามบางคำถามและการชี้แจงไม่ใช่หน้าที่ของพ.ต.อ.ทวี อย่างเช่นที่จะไปชั้น14 ใครอยากไปหรือใครอยากไปมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของพ.ต.อ.ทวี บางอย่างไม่ใช่ท่านจะสั่งการได้ เพราะจะมีกระบวนการในการเสนอมา
“ถ้าหากใครยังมีความสงสัยอยู่ผมขอแนะนำง่ายๆ ถ้าอยากจะใช้บริการของท่านรัฐมนตรีก็ลองไปเป็นนักโทษดู ท่านจะรู้ว่าท่านทักษิณได้ใช้บริการนี้คุณจะได้ใช้บริการเดียวกันหรือไม่พูดกันตรงๆ ในฐานะที่ชีวิตเคยผ่านคุกผ่านตารางมาก่อน” นายประยุทธ์กล่าว
ส่วนเรื่องการรักษา พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายแพทย์ใหญ่ เขาแจงว่าเอกสารที่ส่งให้ ป.ป.ช.เหลือเพียงแค่ตัวเวชระเบียน เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติตามมาตรา 7 ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาล ส่งให้ ป.ป.ช.ไปแล้ว เพราะว่ามันจะมีทั้งราคา รายละเอียดการรักษา มีรายงานว่า วันไหน ผ่าตัด วันไหนทำ MRI ซึ่งมันเหนือกว่าเวชระเบียนอยู่แล้ว ส่วนสิทธิ์ของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะออกเงินเองก็ได้ เพราะโรงพยาบาลตำรวจจับมือกับ สปสช. ซึ่งกรณีของนายทักษิณ ค่ายาหลักสูง แต่ผู้ป่วยเป็นผู้ออกเอง และไม่มีกฎหมายเขียนห้ามไว้
ด้านพันตำรวจโทธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล เลขานุการประจำคณะ กมธ. ให้ข้อมูลว่า วิวห้องที่นายทักษิณ พักรักษาตัวเป็นวิว sport club เป็นห้องสูท ถ้าดูตามราคาที่ปรากฏทั่วไป คืนละประมาณ 8,500 บาท คูณ 120 วัน ก็ประมาณล้านกว่าบาท ในฐานะที่เป็นตำรวจและเคยใช้บริการจึงได้ส่วนลด แล้วนายทักษิณได้ส่วนลดด้วยหรือไม่ ตนถามไว้เผื่อคนอื่น ในอนาคตผู้ต้องหาคนอื่น อยากทำ จะสามารถทำได้หรือไม่
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คนทั่วไปก็อยู่ห้องนั้นได้ ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นนายทักษิณ ไม่ขอใช้สิทธิ์โดยเป็นการจ่ายเงินเอง และราคาห้องอาจจะมากกว่า เพราะมีค่าหมอค่ายาอีก และการที่นายทักษิณ อยู่ในห้องโรงพยาบาลตำรวจ ก็เหมือนอยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ออกไปไหน และการที่ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เพียงพอ
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า มันมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ครั้งที่แล้วกรมราชทัณฑ์ ให้ข้อมูลกับเราว่า พยาบาล 2 คนเป็นผู้วินิจฉัย ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่รัฐมนตรีเพิ่งบอกเราว่ามีคุณหมอเป็นผู้วินิจฉัย
ทำให้พันตำรวจเอกทวี กล่าวชี้แจงว่า คุณหมอมาตรวจตอน 11.00 น. แล้วพบว่ามีหลายโรค พอกลางคืน พยาบาลก็ส่งตัวตามตามคำแนะนำของแพทย์ในตอนเช้า และตามกฎหมายเขาเขียนให้พยาบาลเป็นผู้ส่งตัว ไม่ได้ให้หมอเป็นผู้ส่งตัว มันไม่มีอะไรที่จะผิดกฎหมาย.-312 -สำนักข่าวไทย