กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – กฟผ. ร่วมเป็นคณะผู้แทนไทยนำเสนอผลงานบนเวที Thailand Pavilion ของการประชุม COP29 ชูกลยุทธ์ Triple S นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลักดันไทยให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality
นายเอกรัฐ สมินทรปัญญา ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ร่วมเป็นคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมในกิจกรรมคู่ขนานของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP 29) ณ กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน มีการร่วมเสวนาในหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านภาคพลังงานมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Energy Transition towards Carbon Neutrality) ชูกลยุทธ์ Triple S ได้แก่ Sources Transformation เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ปรับปรุงโรงไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ Sink Co-creation เพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอน และ Support Measures Mechanism ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับพัฒนาโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสู่การสร้างคุณค่าร่วม Creating Shared Value (CSV) ให้กับสังคม ชุมชนรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ด้วยโครงการนำร่อง “แม่เมาะเมืองน่าอยู่” เพื่อพัฒนาให้พื้นที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เป็นเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ด้วย 3 แนวคิด คือ Smart Energy, Smart Environment และ Smart Economy รวมถึงเตรียมขยายผลยังพื้นที่เขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้ากระบี่
นอกจากนี้ กฟผ. ร่วมนำเสนอผลงานในหัวข้อ “From Waste to Solutions: Compostable Packaging and Biomass Products for a Cleaner Environment” โดยนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นชีวมวลอัดแผ่น ซึ่งมีคุณสมบัติลดเสียงและความร้อน อีกทั้งยังลดการเผาวัสดุทางการเกษตรที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหา PM 2.5 และภาวะโลกร้อน เพื่อช่วยขับเคลื่อนและสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุตามเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ
และ กฟผ.ยังจัดนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Technology) ด้านพลังงานไฟฟ้า ภายใน Thailand Pavilion อาทิ- ENZY Platform ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ควบคุมและบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบ Real Time มีการวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI การพัฒนา EGAT EV Business Solutions ผลิตภัณฑ์และบริการด้านสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำในเขื่อนของ กฟผ. (Floating Solar Project)
“กฟผ. มุ่งมั่นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ามาพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ รองรับทุกการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ สร้างความเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศ” นายเอกรัฐ กล่าว.-511-สำนักข่าวไทย