วอชิงตัน 15 พ.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐสร้างเสียงฮือฮาอีกครั้ง จากการเสนอให้นายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข ทั้งที่เป็นผู้ต่อต้านวัคซีนและข้อมูลการแพทย์
นายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์หรืออาร์เอฟเค จูเนียร์ (RFK Jr.) วัย 70 ปี เป็นทายาทตระกูลดังทางการเมืองของสหรัฐ โดยเป็นหลานของนายจอห์น เอฟ เคนเนดีหรือเจเอฟเค (JFK) ประธานาธิบดีที่ถูกลอบสังหารในปี 2506 เขาได้ลงสมัครชิงทำเนียบขาวในปีนี้ด้วยโดยไม่สังกัดพรรค แต่ต่อมาถอนตัวในวันที่ 23 สิงหาคม และหันไปสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อแลกกับตำแหน่งในรัฐบาล
และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐ นายทรัมป์ได้ประกาศเสนอให้อาร์เอฟเค จูเนียร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีงบประมาณสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 105 ล้านล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 22.8 ของงบประมาณปี 2567 ทั้งหมด อีกทั้งยังกำกับดูแลหน่วยงานสำคัญ เช่น สำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอ (FDA) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อหรือซีดีซี (CDC)
การเสนอชื่อดังกล่าวทำให้ผู้คนในแวดวงสาธารณสุข และแม้แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันแสดงการต่อต้านและตกตะลึง เพราะอาร์เอฟเค จูเนียร์มีจุดยืนที่ผิดหลักการทางการแพทย์มากมาย และมีความเชื่อแปลก ๆ เช่น เชื่อว่าสารฟลูออไรด์ที่อยู่ในน้ำประปาทำให้กระดูกเปราะและก่อมะเร็ง ทั้งที่สมาคมการแพทย์ชี้ว่า ฟลูออไรด์ในน้ำประปาช่วยลดปัญหาฟันผุได้ดีมาก นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ต่อต้านวัคซีน โดยอ้างผิด ๆ ว่าเป็นสาเหตุทำให้เด็กป่วยออทิสติก เขาได้เผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ทำให้มีคนเชื่อและไม่ยอมฉีดวัคซีนมากมาย
แวดวงการแพทย์หลายแห่งระบุว่า อาร์เอฟเค จูเนียร์เป็นอันตรายต่อระบบสาธารณสุข และสามารถก่ออันตรายถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ ดังที่เขาได้แพร่ข่าวปลอมเรื่องวัคซีนโรคหัดในประเทศซามัว จนทำให้ผู้คนไม่ยอมไปรับวัคซีน ต่อมาเกิดการระบาดจนมีผู้ติดเชื้อกว่า 50,000 คนและเสียชีวิตไปเกือบร้อยคน.-812(814).-สำนักข่าวไทย