สงขลา 12 พ.ย. – “ปวีณา” บินด่วนช่วยสาวนราธิวาส อายุ 36 ปี มีเข็มติดในช่องคลอด หลังไปคลอดลูกแล้วพยาบาลทำเข็มหล่นทิ้งไว้ ต้องทนทุกข์ทรมานนาน 18 ปี
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา น.ส.ส.สารีปะ อายุ 36 ปี หญิงสาวจาก จ.นราธิวาส ที่มีเข็มอยู่ในช่องคลอดหลังไปคลอดลูกและพยาบาลทำเข็มหล่นทิ้งไว้เมื่อ 18 ปีก่อน เดินทางไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อพบและร่วมประชุมกับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การรักษา
โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายอารือมัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.จวก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยเหลือลูกบ้านคือ น.ส.สารีปะ เนื่องจากเมื่อ 18 ปีก่อน ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส ขณะที่แพทย์กำลังเย็บแผล พยาบาลทำเข็มหล่นลงไปในช่องคลอด เเพทย์พยายามควานหาแต่ไม่พบ ไม่สามารถนำออกมาได้ จนกระทั่งปี 2566 น.ส.สารีปะ เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณท้องน้อย บางครั้งถึงกับเป็นลม และได้ไปพบแพทย์ช่วงเดือนเมษายน 2567 ตรวจเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลใน จ.นราธิวาส ปรากฏว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอด
จากนั้นโรงพยาบาลส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลใน จ.สงขลา แต่ปรากฏว่าเข็มที่อยู่ในช่องคลอดเคลื่อนตัวอยู่ตลอด ทำให้หมอไม่สามารถผ่าตัดได้ ต้องเลื่อนการผ่าตัด 2-3 ครั้ง ปัจจุบัน น.ส.สารีปะ ยังต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเดือนละ 3-4 ครั้ง แม้จะใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ครอบครัวฐานะยากจน จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ประสานนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส และนัดหมายให้ผู้ใหญ่บ้านพา น.ส.สารีปะ ไปพบเพื่อขอให้รักษา และประสานหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นราธิวาส เพื่อช่วยเหลือในการเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินครินทร์ ในวันนี้ (12 พ.ย.67) นางปวีณาได้ประสาน รศ.นพ.รังศรรค์ ภูรยานนทชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหารือแนวทางการรักษา
จากการที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้รับส่งต่อผู้ป่วยคือ น.ส.สารีปะ ซึ่งเข้ารับการรักษาด้วยอาการปวดท้องน้อย เบื้องต้นทราบว่าเมื่อ 18 ปีก่อน เคยคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตอนเย็บปิดแผลมีสิ่งแปลกปลอมค้างอยู่ในช่องคลอดส่วนล่าง ทำให้เกิดอาการปวดตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมา
เบื้องต้นอาการที่พบขณะที่เข้ารับตรวจ ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คือเจ็บบริเวณท้องน้อยเรื้อรังมานาน โดยคิดว่าความปวดนั้นเกิดจากสิ่งแปลกปลอมที่ค้างอยู่ภายใน จากการดูผลเอกซเรย์พบว่าสิ่งแปลกปลอมนั้น ไม่น่าจะอยู่ในอุ้งเชิงกราน แต่อยู่ในอวัยวะเพศส่วนล่าง ส่วนอาการปวดของคนไข้กับตำแหน่งที่สิ่งแปลกปลอมอยู่นั้นเป็นคนละตำแหน่งกัน จึงสันนิษฐานว่าสิ่งแปลกปลอมที่ค้างอยู่ไม่ใช่สาเหตุของการเกิดอาการปวดที่เป็นอยู่ ซึ่งทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เคยนัดคิวผ่าตัดไว้กับผู้ป่วยแล้วเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 แต่ผู้ป่วยและญาติขอเลื่อนการนัดผ่าตัดไปก่อน จนกว่าสภาพร่างกายและสภาพจิตใจจะดี
ส่วนอาการปวดของผู้ป่วย ทางทีมเพทย์ต้องหาสาเหตุเพิ่มเติม และรักษาแบบประดับประคองตามอาการ รวมถึงการรักษาและดูแลเรื่องความวิตกกังวลของผู้ป่วย ซึ่งจะเป็นการดูแลร่วมกันกับโรงพยาบาลในพื้นที่ การผ่าตัดสิ่งแปลกปลอมออก ทางทีมแพทย์มีความเห็นว่าค่อนข้างมีความเสี่ยงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูงในการผ่าตัด เนื่องจากต้องทำการผ่าตัดแบบรื้อเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียง อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและอันตรายต่อผู้ป่วย อีกทั้งอาจเพิ่มอาการปวดที่มีอยู่เดิมให้มากขึ้นด้วย ทั้งนี้ การผ่าตัดต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ป่วย โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ยืนยันว่าจะทำการดูแลรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานการแพทย์อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย