“ปวีณา” พาเหยื่อถูกแฟนหนุ่มสาดน้ำกรด เข้าศัลยกรรม

31 ส.ค. – “ปวีณา” พาเหยื่อถูกแฟนหนุ่มแอบขึ้นรถสาดน้ำกรดเสียโฉม เข้าศัลยกรรมที่ รพ.ยันฮี ด้าน รพ. ยินดีช่วยโดยไม่คิดค่ารักษา


เมื่อเวลา 13.15 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา น.ส.น้ำฝน อายุ 38 ปี ถูกอดีตแฟนหนุ่มผีพนันสาดน้ำกรด มายัง โรงพยาบาลยันฮี เพื่อเข้าพบ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ยันฮี เพื่อทำการรักษาแผลเป็นบริเวณใบหน้า ศีรษะ แผ่นหลัง มือ ซึ่งรอยแผลเป็นส่วนใหญ่ตามร่างกาย เป็นพังผืดและยึดรั้งทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายไม่เป็นไปตามปกติ โดยมี นพ.เกรียงไกร ทันตวิวัฒนา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศักยกรรมตกแต่ง เข้าร่วมประเมินอาการด้วย

ด้าน นพ.สุพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ทางโรงพยาบาลยันฮียินดีที่จะช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะรู้สึกสงสารผู้เสียหายที่ต้องกระทำการรุนแรงเช่นนี้ โดยทางโรงพยาบาลได้มีการประสานงานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศักยกรรมตกแต่งให้เข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้


ในขณะที่ นพ.เกรียงไกร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสัญญากรรมตกแต่ง เผยว่า ในขั้นตอนการรักษาแผลจากน้ำกรด เบื้องต้นแผลสดหายเกือบหมดแล้ว แต่หลังจากนี้จะเป็นการรักษาปัญหาแผลเป็น โดยเฉพาะแผลที่มีผลต่อการใช้ชีวิต เช่นบริเวณเปลือกตาล่างที่จำเป็นต้องผ่าตัด และบริเวณแผ่นหลังจะต้องมีการปลูกถ่ายผิวหนัง, บริเวณแผลเป็นตึงรั้งบริเวณคอด้านหลัง ซึ่งจากนี้จะมีการปรึกษากับทีมแพทย์เพิ่มเติมในการวางแผนการรักษาและควบกับการปรึกษาหมอกายภาพเช่นข้อมือ ซึ่งปัญหาอุปสรรคใหญ่คือแผลเป็นดังนั้นการรักษาคาดว่าจะใช้ระยะเวลาหลายปีและจะต้องผ่าตัดหลายครั้ง ซึ่งทางโรงพยาบาลยันฮีจะดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดตลอดการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ด้านนางสาวปวีณา เผยว่า ส่วนตัวตนก็ต้องขอบคุณ ทางโรงพยาบาลยันฮีที่ให้ความช่วยเหลือกรณีของนางสาวน้ำฝน เพราะตนรู้สึกสงสารนางสาวน้ำฝนเป็นอย่างมาก ต้องใช้ชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็น หลังรักษาตัวมา 3 เดือน นอกจากนี้ผู้เสียหายยังมีความเครียดที่นายจ้างเลิกจ้างงาน พอจะกลับไปทำงานใหม่ก็โดนปฏิเสธ อ้างว่าตำแหน่งเต็มแล้ว จึงทำให้ผู้เสียหายรู้สึกเครียด ทางมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้าย และประสานคุณหมอสุพจน์ ช่วยเหลือให้การรักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และหากหน่วยงานใดอยากจะช่วยเหลือรับน.ส.น้ำฝน เข้าทำงาน ขอให้ติดต่อมาได้ที่มูลนิธิปวีณาฯโทร. 1134, 098 478 8991, 081 890 1355 จากนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือรักษาน.ส.ฝน ร่วมกับโรงพยาบาลยันฮีต่อไป

ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้นทางมูลนิธิประวีณาได้มีการประสานงานไปยังผู้กำกับ สภ.บางปะอิน ในการเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยล่าสุดทางเจ้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งคนร้ายอยู่ในระหว่างการหลบหนี.-420 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก