กสม. 8 พ.ย.- กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชื่นชมรัฐบาล มีมติ ครม. เร่งรัดกระบวนการกำหนดสถานะบุคคล แก่ผู้ที่ยังมีปัญหาไร้รัฐไร้สัญชาติ
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ ว่า ตามที่รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ที่นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส เพื่อเร่งรัดกระบวนการกำหนดสถานะแก่ผู้ที่ยังมีปัญหาและขจัดความไร้รัฐให้หมดไป ภายในปี 2567 และล่าสุดคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมเห็นชอบหลักเกณฑ์เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ
การดำเนินการตามมติ ครม.นี้ จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาคำขอให้ได้มาซึ่งสถานะบุคคลตามกฎหมายให้รวดเร็วยิ่งขึ้น จากเดิมที่ใช้ระยะเวลา 270 วัน สำหรับกระบวนการพิจารณาคำขอออกใบสำคัญถิ่นที่อยู่ถาวรของผู้อพยพมาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลานาน และ 180 วัน สำหรับกระบวนการพิจารณาคำขอมีสัญชาติไทยกลุ่มบุตรของผู้อพยพที่เกิดในไทย เหลือเพียงระยะเวลา 5 วัน
กสม. ขอชื่นชมรัฐบาลในความพยายามแก้ไขปัญหาสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ เพื่อขจัดความไร้รัฐให้หมดไปในปี 2567 มติ ครม. ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดจำนวนบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนมากที่สุด เท่าที่เคยปรากฏในโลกดังที่ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมไว้ อย่างไรก็ดี กสม. หวังว่า ในการปฏิบัติตามมติ ครม.เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจ จะเป็นไปตามเจตนารมย์ของกฎหมาย มีความระมัดระวังและป้องกันมิให้เกิดการทุจริตทางทะเบียนราษฎรขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้การขจัดความไร้รัฐมีความเป็นธรรมและสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างแท้จริง .314.-สำนักข่าวไทย