ชง ครม.สอบใช้สปายแวร์เพกาซัสสอดแนม ชี้ละเมิดสิทธิ

กสม. 5 เม.ย.- กสม. ชง ครม. สอบใช้สปายแวร์เพกาซัส สอดแนมนักเคลื่อนไหว ชี้ละเมิดสิทธิส่วนตัว เสรีภาพการแสดงความเห็น


นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า กสม.ได้พิจารณากรณีร้องเรียนว่า เดือน พ.ย. 64 ผู้ร้องได้รับอีเมลแจ้งเตือนจากบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อไอโฟน (iPhone) หรือ  บริษัท แอปเปิล ว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ร้องอาจถูกเจาะระบบเพื่อสอดแนม  โดยผู้โจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรของรัฐ  ซึ่งข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า  รายงานวิจัยที่จัดทำโดยห้องปฏิบัติการ Citizen Lab   มหาวิทยาลัย Toronto ประเทศแคนาดา     ได้ระบุข้อค้นพบจากการตรวจวิเคราะห์ด้วยวิธีการทางนิติวิทยาศาสตร์  ว่า ในช่วง  ต.ค. 2563 -พ.ย. 2564    มีผู้ถูกเจาะระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยสปายแวร์เพกาซัสในประเทศไทยอย่างน้อย 30 คน  ประกอบด้วยนักกิจกรรม นักวิชาการ ผู้ที่ทำงานในองค์กรภาคประชาสังคม  รวมถึงผู้ร้อง  โดยข้อค้นพบที่ปรากฏนี้ได้รับการยืนยันผลการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล  ว่ามีการโจมตีด้วยสปายแวร์เพกาซัสต่อผู้ร้องและกลุ่มบุคคลดังกล่าว  สอดคล้องกับความเห็นของพยานผู้เชี่ยวชาญของ กสม. ที่ระบุว่าผลการตรวจวิเคราะห์ของห้องปฏิบัติการ Citizen Lab นั้น มีความน่าเชื่อถือ  

ประกอบกับเมื่อปี 2564 บริษัท แอปเปิล ได้ฟ้องบริษัท เอ็นเอสโอ กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้พัฒนาสปายแวร์เพกาซัส โดยเรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบต่อการใช้สปายแวร์เพกาซัสที่พุ่งเป้าการสอดแนมมายังผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของบริษัท แอปเปิล  ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่บริษัทแอปเปิล ส่งอีเมลแจ้งเตือนผู้ร้องและผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของบริษัทรายอื่น  ให้ระมัดระวังการถูกเจาะระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่จากผู้โจมตีที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐ


รวมทั้งยังปรากฏด้วยว่านับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา มีการฟ้องร้องบริษัท เอ็นเอสโอ กรุ๊ปฯ เป็นคดีต่อศาลและมีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะขึ้นมาสอบสวนการใช้งานสปายแวร์เพกาซัสโดยมิชอบในประเทศต่างๆ อีกหลายกรณี  และในปี 2564 กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ยังได้เพิ่มรายชื่อบริษัท เอ็นเอสโอ กรุ๊ปฯ เข้าไปในบัญชีรายชื่อบริษัทที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ขัดต่อความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา  เนื่องจากมีหลักฐานว่ามีการจัดหาสปายแวร์ให้แก่รัฐบาลหลายประเทศ เพื่อใช้โจมตีไปยังเป้าหมายที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้สื่อข่าว นักธุรกิจ นักกิจกรรม และนักวิชาการ  ซึ่งส่งผลให้เกิดการปราบปรามผู้เห็นต่างโดยไม่จำกัดพรมแดน อันเป็นการกระทำที่ขัดกับกฎระเบียบในทางระหว่างประเทศ  

นายวสันต์  กล่าวว่า กรณีตามคำร้องจึงมีเหตุผลทำให้เชื่อได้ว่ามีการใช้งานสปายแวร์เพกาซัสโจมตีระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อสอดแนมข้อมูลของผู้ร้อง รวมถึงนักกิจกรรม นักวิชาการ และผู้ที่ทำงานในองค์กรภาคประชาสังคมในประเทศไทย ทั้งที่กลุ่มคนข้างต้นไม่เคยปรากฏข่าวว่ามีประวัติเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือการก่ออาชญากรรมที่มีความร้ายแรง  มีเพียงการถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมเพื่อคัดค้าน หรือวิจารณ์การดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา การเจาะระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อสอดแนมข้อมูลด้วยสปายแวร์เพกาซัส จึงเข้าข่ายเป็นการใช้งานโดยมิชอบและผิดวัตถุประสงค์ของการผลิตหรือพัฒนาสปายแวร์เพกาซัสขึ้นมา   อีกทั้งยังถือเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวของผู้ร้อง รวมถึงนักกิจกรรม นักวิชาการ และผู้ที่ทำงานในองค์กรภาคประชาสังคม และส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวและความกังวลต่อการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต หรือการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ อันเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ตามปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย   ซึ่งจะนำไปสู่การจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งสิทธิและเสรีภาพอื่นๆ ของประชาชนที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงด้วย   

และแม้จะยังไม่มีพยานหลักฐานที่ระบุได้อย่างชัดเจนว่าหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยหน่วยงานใดเป็นผู้ใช้งานสปายแวร์เพกาซัสเจาะระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อสอดแนมข้อมูลของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ แต่เมื่อพิจารณาถึงข้อมูลบ่งชี้เกี่ยวกับบริบทแวดล้อม และความน่าจะเป็นต่างๆ ประกอบกัน เช่น นโยบายของบริษัท เอ็นเอสโอ กรุ๊ป ฯ ที่จะขายสปายแวร์เพกาซัสให้แก่เฉพาะหน่วยงานของรัฐในประเทศต่างๆ เท่านั้น ผู้เสียหายอื่นๆ ถูกโจมตีด้วยสปายแวร์ดังกล่าวว่ามักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีการจัดกิจกรรม หรือการชุมนุมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล รวมทั้งเมื่อพิจารณาเอกสารประกอบการของบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการจัดหาระบบรวบรวมและประมวลผลข่าวกรองชั้นสูงของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีข้อมูลการจัดซื้อระบบเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ในอดีต และระบบที่จะจัดหามาใช้งานใหม่มีคุณสมบัติในการส่ง Application Agent ไปติดตั้งบนโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยที่เป้าหมายไม่รู้ตัว คล้ายกับรูปแบบการเจาะระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์เคลื่อนที่เป้าหมายแบบไม่ต้องคลิก (Zero-click exploit) ที่เป็นคุณสมบัติเด่นของสปายแวร์เพกาซัส ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งานสปายแวร์เพกาซัสโจมตีเพื่อสอดแนมข้อมูลของนักกิจกรรม นักวิชาการ ผู้ที่ทำงานในองค์กรภาคประชาสังคม และผู้ร้อง” นายวสันต์  ระบุ


กสม. เห็นว่า เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเพื่อให้เกิดการแสวงหามาตรการเยียวยาและการป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในลักษณะนี้ขึ้นอีก จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีมาตรการหรือกลไกที่มีความเหมาะสม เป็นอิสระ และโปร่งใส ในการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้งานสปายแวร์เพกาซัส สปายแวร์อื่น ๆ หรือเทคโนโลยีสอดแนมในลักษณะเดียวกันในทางที่อาจไม่เป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจ หรือไม่สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม โดยผู้ดำเนินมาตรการหรือปฏิบัติหน้าที่ในกลไกข้างต้นต้องมีอำนาจในการเรียกเอกสาร พยานหลักฐาน หรือเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับด้วย

นอกจากนี้ให้ ครม. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาข้อมูล เพื่อให้มีกฎหมาย ระเบียบ แนวปฏิบัติ หรือกลไกในการกำกับ ควบคุม และตรวจสอบการใช้งานสปายแวร์ หรือเทคโนโลยีสอดแนมของหน่วยงานของรัฐ เพื่อเป็นหลักประกันในการป้องกันไม่ให้มีการนำสปายแวร์หรือเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้งานในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายหรือกลไกดังกล่าวให้กำชับหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจใช้เทคโนโลยีสอดแนมให้ใช้งานโดยถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดด้วย.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]