“พล.อ.อนุพงษ์” พร้อมให้ตรวจสอบกรณีเรือเหาะตรวจการณ์

มหาดไทย 15 ก.ย.- “พล.อ.อนุพงษ์” พร้อมให้ตรวจสอบกรณีเรือเหาะตรวจการณ์ แต่ต้องตรวจหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เรียกร้องทุกฝ่ายศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเข้าใจผิด


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงกรณีที่กองทัพบกปลดระวางการใช้งานเรือเหาะตรวจการณ์ เนื่องจากหมดอายุใช้งาน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงงบประมาณจัดซื้อที่สูง และประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่คุ้มค่า ว่า ไม่ทราบใครเป็นผู้ประเมินประสิทธิภาพของเรือเหาะ 

พล.องอนุพงษ์ กล่าวว่า มูลค่าจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ รวม 350 ล้านบาท แบ่งเป็นตัวกล้อง จำนวน  5 ตัว  ราคา 250 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ตัวกล้องยังสามารถใช้การได้ดี โดยติดไว้กับแท่น ฮ 3 ลำ ส่วนอีก 2 ตัวติดอยู่ที่เรือเหาะ ซึ่งยังใช้การได้ ขณะที่ ตัวเรือเหาะและโรงเก็บ ราคาอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการประมินคุณภาพใช้การได้หรือไม่ อยู่ที่กองทัพบก รวมถึง อาจมีการพิจารณาเรื่องการทุจริต ซึ่งเป็นอีกเรื่อง หากมีการร้องเรียน


พล.อ.อนุพงษ์  เห็นด้วย หากมีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบทุจริต เพราะจะได้ไม่นำมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีข้อมูล  แม้การจัดซื้อเรือเหาะจะเกิดขึ้นในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก  แต่เมื่อตรวจสอบ ก็ต้องไปดูว่า ใครเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งการรับของ การทำสัญญา รวมถึง ผู้ใช้งาน  

“ผมพ้นจากตำแหน่งนานแล้ว จึงบอกไม่ได้ว่า หากมีการปรับเปลี่ยนสภาพการใช้งานของเรือเหาะตรวจการณ์ จะทำได้ในรูปแบบใดบ้าง เพราะช่วงของการจัดซื้อ ผมไม่ได้เป็นผู้พิจารณาโดยตรง  ดังนั้น จะต้องตรวจหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จะตรวจสอบเฉพาะเกิดในสมัยผมอย่างเดียวไม่ได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์  เรียกร้องทุกฝ่ายให้ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะหากเข้าใจผิดในช่วงเริ่มต้น ก็เข้าใจโครงการจัดซื้อนี้ผิดไปด้วย และอย่าใช้ความรู้ประเมินความคุ้มค่า  พร้อมระบุว่า หากจะให้ตนไปสอบถามเรื่องนี้ คงไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้ไม่มีอำนาจสั่งการในกองทัพบก         .- สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง