สงขลา 2 พ.ย. – สุดเศร้า! พ่อหลั่งน้ำตารับศพลูกชาย ถูกลูกทนายดังจ่อยิงเสียชีวิต พร้อมทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ส่วนมือยิงศาลไม่อนุญาตให้ประกัน คอตกเข้าเรือนจำ
เหตุนายนิติพันธ์ อายุ 37 ปี ลูกทนายดังหาดใหญ่ ใช้อาวุธปืนยิงนายยงยุทธ อายุ 37 ปี เสียชีวิตคาโต๊ะต่อหน้าเพื่อนที่ร่วมดื่มกินกัน 5 คน กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนาทีนายนิติพันธ์ชักปืนจ่อยิงเพื่อนด้วยความโหดเหี้ยม ก่อนยกแก้วเหล้าดื่มอย่างใจเย็น เดินไปขึ้นรถ สุดท้ายยังเดินย้อนกลับมายิงซ้ำ จนนายยงยุทธล้มลงกับพื้น
โดยชนวนสังหารมาจากการที่นายนิติพันธ์ทวงถามเรื่องสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ที่หายไประหว่างไปเที่ยวผับด้วยกัน และสงสัยว่านายยงยุทธเป็นคนเอาไป เมื่อทวงถามแล้วถูกปฏิเสธจนมีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้นายยงยุทธถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่นายนิติพันธ์หลบหนีไป
ครอบครัวเศร้าหลั่งน้ำตารับศพไปบำเพ็ญกุศล
บ่ายวันนี้ (2 พ.ย.) ครอบครัวของนายยงยุทธ ประกอบด้วย พ่อ น้อง และญาติๆ เดินทางไปรับศพที่ถูกส่งมาผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแพรกสุวรรณ อ.ควนเนียง จ.สงขลา จากการผ่าพิสูจน์ศพพบหัวกระสุนปืน 4 นัดฝังอยู่ในร่างกาย ที่ศีรษะ 1 นัด ลำตัว 2 นัด และแขน 1 นัด
บรรยากาศระหว่างที่ครอบครัวไปรับศพสร้างความสะเทือนใจให้กับญาติพี่น้องและผู้พบเห็นอย่างมาก โดยผู้เป็นพ่อร้องไห้เมื่อเห็นร่างลูกชาย ส่วนน้องชายถึงกับคุกเข่าลงร่ำไห้เอามือทุบกับพื้น และหลบเข้าไปตะโกนร้องในมุมห้อง เพื่อระบายความคับแค้นใจ
จากนั้นพ่อและน้องชายผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุในเมืองหาดใหญ่ เพื่อจุดธูปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน และเชิญดวงวิญาณไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดแพรกสุวรรณ
ศาลไม่ให้ประกันลูกชายทนายดัง ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที
ส่วนนายนิติพันธ์ ผู้ก่อเหตุซึ่งเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล เบื้องต้นถูกดำเนินคดี 4 ข้อหาหนัก คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.มีอาวุธปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน ที่ชุมชน
มีรายงานว่าเช้านี้ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ คุมตัวผู้ก่อเหตุส่งฝากขังที่ศาล จ.สงขลา ขณะที่ญาติยื่นขอประกันตัวในชั้่นศาล แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง ทำให้นายนิติพันธ์ถูกคุมตัวส่งเรือนจำสงขลา ทันที.-สำนักข่าวไทย