พิธีบวงสรวงสร้างมณฑปประดิษฐาน “พระเขี้ยวแก้ว”

ทำเนียบ 30 ต.ค.- พิธีบวงสรวงการจัดสร้างมณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567


นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธานกรรมการดำเนินโครงการฯ และประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการฯ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการจัดสร้างมณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่อัญเชิญจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายรัศม์ ชาลีจันทร์) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ) ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบดีกรมศิลปากร อธิบดีกรมการศาสนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อธิบดีกรมสารนิเทศ พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีฯ ดังกล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่ารัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 รวมเป็นเวลา 73 วัน และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568


ในโอกาสนี้ คณะกรรมการดำเนินโครงการฯ มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างมณฑปประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว โดยผสมผสานศิลปะแบบจีนและไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับก่อสร้างมณฑป และได้จัดพิธีบวงสรวงการจัดสร้างมณฑปประดิษฐาน พระเขี้ยวแก้ว ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ทั้งนี้ รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เคยอนุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ไปประดิษฐานยังประเทศต่าง ๆ รวม 6 ครั้ง รวมทั้งเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 ณ พุทธมณฑล ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ อันเป็นสิริมงคลยิ่งต่อพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีน จึงขอเชิญชวนประชาชนกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เบื้องหลังการถ่ายทอดขบวนเรือพระราชพิธีฯ

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 ประเทศไทยมีพระราชพิธีสำคัญคือ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

ข่าวแนะนำ

เปิดใจ “มาดามอ้อย” ลั่น “กราบเท้าก็สายไปแล้ว”

“มาดามอ้อย” ลั่นเดินหน้าดำเนินคดี “ทนายตั้ม” ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท ถึงที่สุด ระบุก้มกราบเท้าก็สายไปแล้ว ขณะที่ “สนธิ” ยืนยันไม่ได้รับงานเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมฉ้อโกง

สภาฯ ผ่านฉลุย “กม.ห้ามตีเด็ก”

สภาฯ ผ่านฉลุย “กม.ห้ามตีเด็ก” “ณัฐวุฒิ” ชี้แม้ไม่มีคำว่า “ไม่เป็นการเฆี่ยนตี” ไม่ได้หมายความว่าผู้ปกครองจะทำร้ายบุตรได้ เหตุยังมี กม.คุ้มครองเด็ก เอาผิดอยู่

อุตุฯ เลื่อนประกาศเข้าฤดูหนาว คาดเข้าเกณฑ์ไม่เกิน 2 สัปดาห์

โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา เผยเลื่อนประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยยังไม่เข้าเกณฑ์ คาดเข้าเกณฑ์ไม่เกิน 2 สัปดาห์