รัฐสภา 25 ต.ค.-กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจปางช้าง ยื่นหนังสือ กมธ.ปกครอง สอบ “มูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ เชียงใหม่” จี้ตรวจสอบเงินบริจาคมูลนิธิฯ-การครอบครองช้าง ปูดหลังน้ำท่วมยังมีช้างสูญหาย 5-9 เชือก
กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจปางช้าง นำโดยนางวาสนา ทองสุข กรรมการบริหารปางช้างแม่แตง พร้อมด้วยทีมกฎหมาย ยื่นหนังสือต่อนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง เพื่อขอให้ตรวจสอบ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม เชียงใหม่ (Elephant Nature Park : ENP) หลังกรณีเกิดเหตุน้ำป่าท่วมปางช้าง และทำให้ช้างตาย 2 เชือก ซึ่งยืนยันได้ว่าคือ พังฟ้าใส และ พลายทอง และยังมีช้างที่ยังสูญหายประมาณ 5-9 เชือก โดยทั้งหมดเป็นช้างของมูลนิธิ
นางวาสนา กล่าวว่า สมาคมสหพันธ์ช้างไทย และองค์กรที่เกี่ยวข้องจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบการทำงานของ Elephant Nature Park ดังนี้
1.เหตุผลของการไม่อพยพช้างในเวลาเหมาะสม เนื่องจากมีการเตือนจากทางราชการตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. แต่ทาง Elephant Nature Park ยังคงดำเนินกิจการปกติ และหลังเกิดเหตุได้นางแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้ก่อตั้ง Elephant Nature Park ได้โพสข้อความในเฟซบุ๊ก ว่าตนได้อพยพช้างไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. แต่กลับพบช้างจำนวน 16 เชือกอยู่ในปาง และมีการสูญเสียตามที่กล่าวมา
2.การดูแลสัตว์ภายใต้การ พรบ.คุ้มครอง สวัสดิภาพ ความปลอดภัย เนื่องจากช้างที่ได้รับการช่วยเหลือในเหตุการณ์น้ำท่วมของวันที่ 4 ต.ค. พบว่ามีการกั้นคอกกำแพงสูง (ทำให้ช้างไม่สามารถหนีน้ำได้) และพบว่าบางตัวถูกล่ามโซ่
3.กรณีการเป็นเจ้าของช้างของ Elephant Nature Park เนื่องจากพบว่าจากจำนวนช้าง 119 เชือก มีช้างจำนวน 51 เชือก เป็นของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม แต่อีก 56 เชือกเป็นชื่อของนางแสงเดือน
4.พนักงานของ Elephant Nature Park ได้ทำการถูกกฎหมายหรือไม่ และได้รับสวัสดิภาพ กฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างไร เนื่องจากคนงานส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงและต่างชาติ
5.ตรวจสอบเงินบริจาคของทางมูลนิธิ เนื่องจากมีการแจ้งว่านางแสงเดือน ชัยเลิศ ได้นำเงินบริจาคไปใช้ในทางที่มิได้เกี่ยวข้องกับมูลนิธิและการดูแลสัตว์แต่อย่างใด 6.การให้ข้อมูลเท็จของนางแสงเดือน ผ่านสื่อเป็นข้อความในเฟซบุ๊กแสงเดือน ชัยเลิศ-Saengduean Chailert ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและข้อมูลเท็จต่อสังคม
ด้านนายกรวีร์ กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการปกครอง ในวันที่ 30 ต.ค.67 นี้ เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียด โดยจะแบ่งออกเป็นประเด็นต่างๆ คือการตรวจสอบมูลนิธิที่เกิดเหตุทำให้ช้างเสียชีวิต ตลอดไปจนถึงการจัดตั้งมูลนิธิหน่วยงานที่กำกับดูแลและตรวจสอบในเรื่องการออกใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งคณะกรรมาธิการการปกครองจะทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมที่ประชุมด้วย พร้อมย้ำว่าคณะกรรมาธิการการปกครอง จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่และตรงไปตรงมาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและให้เกิดความกระจ่างในสังคม.-317.-สำนักข่าวไทย