ก.คลัง 13 ก.ย. – คลังประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 11.431 ล้านคน เปิด 3 ช่องทาง ตรวจสอบสิทธิ์ 15 ก.ย. และรับบัตร 21 ก.ย. นี้
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการตรวจสอบผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 11,431,681 คน และไม่ผ่านคุณสมบัติ 2,744,489 คน โดยเหตุผลหลักที่ถูกตัดสิทธิ์ คือ มีทรัพย์สินที่ดิน เงินฝาก และรายได้เกินกำหนดตามลำดับ ส่วนผู้ที่แจ้งว่าจบปริญญาเอกนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นผู้ที่จบการศึกษาจริงเพียงร้อยละ 5
ทั้งนี้ มีผู้ลงทะเบียนโครงการทั้งหมด 14,176,170 คน สามารถตรวจสอบผลการตรวจสอบคุณสมบัติตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ประกอบด้วย ช่องทางที่ 1 ตรวจสอบด้วยตัวเองหรือขอความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ได้แก่ www.epayment.go.th www.mof.go.th และ www.fpo.go.th โดยพิมพ์เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักลงไปในช่องที่กำหนด ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบ / ช่องทางที่ 2 ตรวจสอบผ่านสายด่วน 6 หน่วยงานเวลาราชการ ได้แก่ 1. Call center ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 1359 2. Call center ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 02-555-0555 3. Call center ธนาคารออมสิน 1115 4.Call center ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 02-111-1111 5.Call center กรมบัญชีกลาง 02-270-6400 และ 6.เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต และช่องทางที่ 3 ตรวจสอบที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือหน่วยงานอื่นตามที่กรมการปกครองเห็นสมควร และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร โดยกระทรวงการคลังจะส่งรายชื่อแยกตามจังหวัด อำเภอ และตำบล ส่งให้กระทรวงมหาดไทย และแยกเป็นรายเขตส่งให้กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการติดประกาศผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่อไป ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิได้รับบัตรฯ สามารถไปรับบัตรฯ ได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป
ขณะที่กรณีผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและต้องการอุทธรณ์สามารถขออุทธรณ์ให้ตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 ซึ่งหน่วยงานตรวจสอบใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบ และส่งผลการอุทธรณ์กลับมาให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ตุลาคม 2560 จากนั้นกระทรวงการคลังประกาศผลการอุทธรณ์วันที่ 24 ตุลาคม 2560 ผ่าน 2 ช่องทางเท่านั้น ได้แก่ www.epayment.go.th และสายด่วน 6 หน่วยงาน หากผลการอุทธรณ์ยืนตามผลครั้งแรก คือ ไม่ผ่าน ผู้ยื่นอุทธรณ์จะไม่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการ ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ยังมีข้อสงสัยผลการอุทธรณ์ให้ติดต่อสอบถามหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ๆ โดยตรง แต่หากผลการอุทธรณ์ปรากฏว่าผ่านคุณสมบัติ ผู้ยื่นอุทธรณ์จะได้รับบัตรฯ ต่อไป สำหรับกรณีผู้มีสิทธิ์ทำบัตรหาย สามารถแจ้งหายได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาและมีค่าใช้จ่ายทำบัตรใหม่ 50 – 100 บาท ซึ่งกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะดำเนินการออกบัตรใหม่ ภายใน 30 วัน
ด้านการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมี 2 หมวด ได้แก่ หมวดลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ประกอบด้วย 1.วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือนส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2.วงเงินส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และหมวดการลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง ประกอบด้วย 1.วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2.วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3.วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center ของบัตรฯ ได้ที่ 02-109-2345 จำนวน 150 คู่สาย วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น.-สำนักข่าวไทย