บก.ปปป. 21 ต.ค.-“บิ๊กเต่า” เผยปมรถบัสนักเรียนไฟไหม้ อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีหลายส่วน ขณะที่ ป.ป.ท. เจ้าหน้าที่รัฐผิดในส่วนการอนุมัติ อนุญาต ละเลย หรือละเว้น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลังรับหนังสือดังกล่าว ตัวเองได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งจากการทำงานพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า อาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง และจะต้องถูกดำเนินคดีหลายส่วน หลังพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนในการอนุญาตหรือปล่อยผ่าน
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ป.ป.ท. ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเรื่องที่เกิดขึ้น จะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีส่วนในการอนุมัติหรืออนุญาต ละเลย หรือ ละเว้น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเกรงว่าจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นอาจจะต้องใช้เวลาการทำงานสักระยะ แต่ยืนยันว่าจะทำคดีอย่างรวดเร็วและดีที่สุด
“ในวันนี้ต้องมีคนรับผิดชอบคงจะปล่อยผ่านไปเฉยๆ โดยที่ไม่มีใครรับผิดชอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดจะต้องมีคนรับผิดชอบ ในส่วนของละเอียดไม่สามารถบอกได้แต่จะทำให้ดีที่สุด สำหรับผู้ที่เสียชีวิตไปจะต้องไม่เสียชีวิตฟรีจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ส่วนจะมีหน่วยงานไหนยังบอกไม่ได้ ส่วนจะรวมถึงโรงเรียนด้วยหรือไม่ ขอให้เป็นรายละเอียดในการสอบข้อเท็จจริง” นายภูมิวิศาล กล่าว
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่าส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นผู้อนุมัติในการอนุญาต ซึ่งหากให้รายละเอียดมากไปจะกระทบเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน เพราะป.ป.ท.ได้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว ก็ได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มีการรวบรวมข้อมูลไว้แล้วระดับหนึ่งแล้ว ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องกี่คน แต่จะต้องมีคนรับผิดชอบไม่มากก็น้อย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายอลงกต วรวี สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 สมาชิกวุฒิสภา เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อให้ดำเนินคดี บริษัท ขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี กรณีรถบัสนักเรียน จังหวัดอุทัยธานี เกิดเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 คน
ด้านนายอลงกต เปิดเผยว่า การดำเนินคดีของ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี พบปัญหาอยู่ที่การประสานกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่จะต้องมีการสรุปสำนวนสอบสวนคดี เพื่อฟ้องคดีอาญากับคนขับ และผู้ประกอบการ ซึ่ง สภ.คูคต รับปากว่าจะสรุปสำนวน ส่งฟ้องภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 และอย่างช้าสุดในวันที่ 3 มกราคม 2568 ตามกำหนดที่จะต้องส่งสำนวนส่งฟ้องให้กับศาลจังหวัดธัญบุรีภายใน 84 วัน จึงได้สอบถามว่าการฟ้องทางแพ่งจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งทาง สภ.คูคต ชี้แจงว่า การดำเนินคดีแพ่งต้องดำเนินคดีอาญาให้แล้วเสร็จก่อน ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ขับขี่รถ แต่ยังไม่มีการพูดถึงการตรวจสอบสภาพรถ รวมถึงถังแก๊สที่ติดตั้งภายในรถมีมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ในทางวิศวกรรมโอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้จากการประสบอุบัติเหตุเป็นไปไม่ได้ ตนเองจึงได้สอบถามกับทาง สภ.คูคต ว่าจะฟ้องร้องสำนักงานขนส่งสิงห์บุรีกับวิศวกรหรือนายช่างที่ตรวจสอบสภาพรถได้หรือไม่ และแม้ว่าทางสำนักงานขนส่งสิงห์บุรีระบุว่า มีการสอบวินัยช่างไปแล้ว แต่ตนเองเห็นว่า จำเป็นต้องร้องเรียนกับตำรวจ ปปป. เพื่อให้มีการสอบและดำเนินคดีกับขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี และวิศวกรที่ตรวจสอบสภาพรถทั้งหมด เนื่องจากถังแก๊สที่มีเพียง 6 ถัง แต่กลายเป็น 11 ถัง โดยการติดตั้งดังกล่าวจะเป็นมูลเหตุทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้หรือไม่ จึงสมควรต้องตรวจสอบเพราะหากมีเพียง 6 ถัง ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่น่าจะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ จึงเป็นที่มาของการดำเนินคดีกับสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี ทีมวิศวกร และช่างตรวจสอบสภาพรถทั้งหมด.-419-สำนักข่าวไทย